สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงทางการทหารของเกาหลีเหนือ 3 คนถูกปลด ก่อนที่จะมีการพบกันระหว่างคิมจองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ และโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่สิงคโปร์ ในวันที่ 12 มิ.ย. โดยเจ้าหน้าที่ที่ถูกปลดมีดังนี้
1. พักยงชิก ที่ถูกปลดจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และถูกแทนที่โดยโนควังชอล
2. รี-มยองซู ประธานเสนาธิการร่วมกองทัพประชาชนเกาหลี (KPA) ก็ถูกปลด และให้รียงกิล รองเสนาธิการขึ้นมารับตำแหน่งแทน
3. คิมจองกัก ผู้อำนวยการฝ่ายการเมืองของ KPA ก็ถูกปลดและให้พลเอกคิมซูกิลขึ้นมาทำหน้าที่แทน
ไมเคิล แมดเดน ผู้เชี่ยวชาญด้านเกาหลีเหนือระบุว่า เจ้าหน้าที่ทั้ง 3 คนที่เข้ามารับตำแหน่งสูงและอ่อนไหวนี้ ล้วนเป็นเจ้าหน้าที่ที่มีอายุน้อยกว่าคนเดิม และเป็นผู้ที่จงรักภักดีต่อคิมจองอึนอย่างมาก อีกทั้งยังมีประสบการณ์ในการเจรจากับตัวแทนจากนานาชาติ ถือเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูปการเมืองและกองทัพของเกาหลีเหนือที่ทำมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่คิมจองอึนขึ้นมารับตำแหน่งผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือในปี 2011
แมดเดนยังมองว่า การปรับเปลี่ยนตำแหน่งในกองทัพช่วงนี้เกิดมาจากหลายปัจจัย รวมถึงการเตรียมการเจรจาระหว่างคิมและทรัมป์ รวมถึงการเจรจาต่อรองและแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กันกับเกาหลีใต้ในอนาคต โดยเฉพาะฝ่ายการเมืองของ KPA ที่คุมเรื่องการสอบบัญชีและการเงินต่างๆของกองทัพ รวมถึงเรื่องความร่วมมือทางการค้าและโครงสร้างพื้นฐานระหว่างสองเกาหลีที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ขอบเขตอำนาจของฝ่ายการเมืองของกองทัพเกาหลีเหนือค่อนข้างมากกว่าหน่วยงานอื่นๆ ของเกาหลีเหนือ จนทำให้คิมจองอึนเองก็เกรงว่าฝ่ายการเมืองของกองทัพจะกลายเป็นภัยคุกคามอำนาจของเขาเอง โดยแมดเดนกล่าวว่า ช่วงเดือนมิ.ย. 2017 ถึงต้นปี 2018 คิมจองกักถูกพรรคคอมมิวนิสต์เกาหลีเหนือสอบสวนอย่างหนัก เป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปีที่หน่วยงานนี้ถูกสอบสวน
ดังนั้น การดึงอำนาจของฝ่ายการเมืองของกองทัพกลับมาไว้ที่คนของคิมจองอึนเอง จะทำให้เขาไม่ต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดเหมือนตอนที่เขาสั่งประหารชีวิตจางซองแท็ก อาเขยที่มีอำนาจมากเป็นอันดับสองของเกาหลีเหนือในปี 2013
ที่มา: CNN
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: