ไม่พบผลการค้นหา
World Trend - ​'คีอานู รีฟส์' ร่วมเปิดตัวเกม Xbox - Short Clip
World Trend - นักวิทยาศาสตร์ไขความลับ ‘แมงมุมบินได้’ - Short Clip
World Trend - ปากกา Galaxy Note รุ่นใหม่อาจมีกล้องในตัว - Short Clip
World Trend - 'ดิสนีย์แลนด์' เผยร่างสวนสนุก 'โฉมงามกับเจ้าชายอสูร' - Short Clip
World Trend - Mi Band 4 ขายได้ 4 ล้านชิ้น ใน 8 วัน - Short Clip
World Trend - ‘เฟซบุ๊ก’ ประกาศลดการเก็บข้อมูลบนแอนดรอยด์ - Short Clip
World Trend - Nintendo Switch รุ่นใหม่ยังไม่มาในเร็วๆ นี้ - Short Clip
World Trend - อุณหภูมิออฟฟิศที่เหมาะสมสำหรับทุกคนอาจไม่มีจริง - Short Clip
World Trend - โดรนพ่นไฟช่วยภารกิจดับไฟป่า - Short Clip
World Trend - คาด 30 ปีข้างหน้า อากาศโลกจะเปลี่ยนแปลงรุนแรง - Short Clip
World Trend - ซิลิคอนแวลลีย์แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คือที่ใด - Short Clip
World Trend - Fight Camp เปลี่ยนห้องให้เป็นยิมชกมวย - Short Clip
World Trend - เครื่องเปลี่ยนขยะในบ้านให้เป็นเชื้อเพลิง - Short Clip
World Trend - Raspberry Pi รุ่นใหม่อาจปลุกกระแส PC อีกครั้ง - Short Clip
World Trend - Black Shark 2 สมาร์ตโฟนเล่นเกมสเปกแรงจากเสียวหมี่ - Short Clip
World Trend - จีนเปิดตัวสวนสนุก VR เต็มรูปแบบแห่งแรกของโลก - Short Clip
World Trend - Tag Heuer เปิดตัวสมาร์ตวอตช์สำหรับตีกอล์ฟ - Short Clip
World Trend - แคนนอนคาดยอดขาย 'กล้องเปลี่ยนเลนส์' จะตกอีก 50% - Short Clip
World Trend - นิวซีแลนด์เล็งปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ในปี 2050 - Short Clip
World Trend - ปารีสเผยโฉม 'ทีเร็กซ์' 67 ล้านปี อิงกระแสจูราสสิคเวิลด์ - Short Clip
World Trend - เยอรมนีทดสอบติดแอร์แบ็กนอกรถ - Short Clip
Jun 11, 2019 04:25

เยอรมนีทดสอบติดแอร์แบ็กนอกรถ

ถุงลมนิรภัย หรือ แอร์แบ็ก เป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่สำคัญต่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่และผู้โดยสารที่อยู่ในรถยนต์อย่างมาก เพราะจะช่วยป้องกันไม่ให้ร่างกายกระแทกกับชิ้นส่วนอื่น ๆ ภายในรถยนต์เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ล่าสุด บริษัท ZF ผู้ผลิตชิ้นส่วนอะไหล่รถยนต์จากเยอรมนี กำลังพัฒนาแอร์แบ็กสำหรับติดตั้งด้านนอกของรถยนต์ เพื่อป้องกันรถยนต์กรณีที่มีรถคันอื่นพุ่งเข้าชน และได้เผยคลิปวิดีโอสาธิตให้เห็นว่าแอร์แบ็กด้านนอกรถทำงานอย่างไร

แอร์แบ็กจะถูกติดตั้งที่ใต้ตัวถังรถยนต์ ใกล้กับประตูทั้ง 2 ด้าน เมื่อมีรถคันอื่นพุ่งเข้ามาที่ด้านข้างของประตู เซนเซอร์จะทำงานร่วมกับกล้องที่ติดตั้งอยู่รอบตัวรถ ตรวจจับได้ แล้วสั่งให้แอร์แบ็กทำงาน พองตัวภายในเวลาไม่ถึง 1 วินาที เพื่อป้องกันบริเวณประตู ก่อนที่จะเกิดแรงกระแทก ซึ่งนับว่าเป็นเทคโนโลยีที่ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบกว่าแอร์แบ็กทั่วไป เนื่องจากแอร์แบ็กที่ติดตั้งอยู่ภายในรถ จะพองตัวทันทีหลังจากที่เกิดการชน แต่แอร์แบ็กที่ติดตั้งอยู่ภายนอกตัวรถ จะต้องทำงานก่อนที่จะเกิดการชน  

บริษัท ZF เปิดเผยว่าอุบัติเหตุรถชนกันที่ทำให้มีผู้บาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิต ส่วนมากเกิดขึ้นจากการชนกันบริเวณด้านข้างของรถยนต์ ซึ่งคนขับรถและผู้โดยสารจะถูกแรงกระแทกอย่างเต็มที่ แม้ว่าแอร์แบ็กชนิดนี้ยังคงอยู่ระหว่างการพัฒนาและยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าจะเริ่มใช้จริงได้เมื่อไร แต่ ZF เชื่อว่าการติดตั้งแอร์แบ็กที่ด้านข้างของตัวรถจะช่วยลดอาการบาดเจ็บของผู้ขับขี่และผู้โดยสารลงได้ถึง 40 เปอร์เซ็นต์

วีโว่ทดสอบสมาร์ตโฟนตก 30,000 เมตร

สมาร์ตโฟนยุคนี้ นอกจากจะต้องมีเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าแล้ว ยังต้องใช้งานทนทานด้วย ทำให้ผู้ผลิตหลายแบรนด์ ต้องทดสอบความแข็งแกร่งของสมาร์ตโฟนตัวเองให้มั่นใจก่อนเปิดตัว ไม่ว่าจะเป็นความทนทานต่ออุณหภูมิ การจมน้ำ หรือตกจากที่สูง ซึ่ง วีโว่ ผู้ผลิตสมาร์ตโฟนจากจีน ได้ก้าวข้ามแบรนด์อื่น ๆ เรื่องการทดสอบความแข็งแกร่งของสมาร์ตโฟน ด้วยการปล่อยสมาร์ตโฟนตกลงมาจากบอลลูนที่ความสูง 103,000 ฟุต หรือประมาณ 30,000 เมตร ลงมากระแทกกับพื้น ซึ่งปรากฏว่าสมาร์ตโฟนยังคงใช้งานได้อยู่ 

สมาร์ตโฟนที่ถูกทดสอบของวีโว่ คือรุ่น ไอคู ซึ่งเป็นสมาร์ตโฟนสำหรับการเล่นเกมและถูกออกแบบให้มีความทนทานเป็นพิเศษ โดยทีมงานได้กดอัดวิดีโอผ่านกล้องบนสมาร์ตโฟนตัวนี้ ตั้งแต่ปล่อยตัวขึ้นไปกับบอลลูน จนกระทั่งตกลงมาที่พื้น ซึ่งก่อนที่สมาร์ตโฟนจะถูกปล่อยให้ตกลงมาที่ความสูง 30,000 เมตร ก็ต้องเจอกับอุณหภูมิที่ติดลบ 50 องศาเซลเซียส แต่สมาร์ตโฟนก็สามารถทนทานต่อทั้งความเย็น และแรงกระแทกที่ตกลงมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ โดยที่กล้องก็ยังคงอัดวิดีโออย่างต่อเนื่อง และใช้งานได้ตามปกติ แม้จะตกลงมาที่พื้นแล้ว  

เมื่อปี 2014 Under Armor Gear หรือ UAG ผู้ผลิตเคสสมาร์ตโฟนที่ขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน เคยทดสอบปล่อยไอโฟน 6 ที่สวมใส่เคสของ UAG ลงมาจากบอลลูนที่ความสูง 30,000 เมตรเหมือนกัน แต่การทดสอบของวีโว่ ถือว่าเป็นครั้งแรกที่ปล่อยสมาร์ตโฟนลงมาจากความสูงขนาดนั้น โดยที่ไม่สวมใส่เคสป้องกัน

เกม Dragon Ball Z Kakarot เปิดตัวต้นปี 2020  

บริษัท บันได นัมโกะ เปิดเผยรายละเอียดและปล่อยตัวอย่างเกม Dragon Ball Z Kakarot ซึ่งเป็นเกม Dragon Ball ภาคใหม่ล่าสุด ที่จะออกมาในรูปแบบ Action RPG เกมต่อสู้แบบตัวต่อตัว แต่จะดำเนินเรื่องตามเรื่องราวที่เกิดขึ้นในการ์ตูนที่วาดโดย อาจารย์อากิระ โทริยามะ โดยผู้เล่นจะต้องสวมบทบาทเป็นโกคู หรือชื่อ คาคาลอท ในภาษาชาวไซย่า เพื่อต่อสู้กับคู่ต่อสู่ที่เก่งกาจหลายคน โดยเนื้อเรื่องในเกมจะเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงที่เบจิต้า บุกมาที่โลก ไปจนถึงช่วงการต่อสู้บนดาวนาเม็กกับฟรีเซอร์ ที่โกคูได้กลายเป็นซูเปอร์ไซย่า ซึ่งนับว่าเป็นช่วงเวลาที่การ์ตูน Dragon Ball ได้รับความนิยมสูงที่สุด 

นอกจากจะดำเนินเรื่องตามการ์ตูนแล้ว ลายเส้นตัวละครในเกมยังให้ความรู้สึกเหมือนวาดด้วยมือใกล้เคียงกับลายเส้นของอาจารย์โทริยามะ ทำให้คนเล่นรู้สึกสนุกเหมือนได้กลับไปอ่านการ์ตูนอีกครั้ง

เกม Dragon Ball Z Kakarot มีกำหนดวางจำหน่ายในช่วงต้นปี 2020  ทั้งบนเครื่องเล่น PlayStation 4, Xbox One และ PC ซึ่งสำหรับเวอร์ชันที่จะวางจำหน่ายในประเทศไทย จะได้รับการแปลเป็นภาษาไทยด้วย ส่วนรายละเอียดการเล่นเกมจะได้รับการเปิดเผยเพิ่มเติมในอนาคต

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
185Article
76559Video
0Blog