ไม่พบผลการค้นหา
Day Break - ถึงคราว 'แบบเรียน' แปลงร่างเป็น e-book - Short Clip
World Trend - Sony Xperia 1 หน้าจอยาวพิเศษสำหรับดูหนัง - Short Clip
World Trend - ซัมซุงปล่อยทีเซอร์ใหม่ Note 10 - Short Clip
World Trend - โซนี่เปิดตัวกล้องจิ๋ว RX0 II พร้อมจอพับได้ - Short Clip
Canon เปิดตัวกล้องคอมแพ็คเทียบเท่า DSLR
World Trend - กล้อง Instax รุ่นใหม่อัดเสียงลงรูปได้ - Short Clip
World Trend - โซนี่เปิดตัวหูฟังไร้สายใหม่ - Short Clip
World Trend - วีโก เปิดตัวสมาร์ตโฟนใหม่ในตระกูล 'วิว ซีรีส์' - Short Clip
World Trend - หัวเว่ย ยอดขายพุ่ง 15 เปอร์เซ็นต์ในครึ่งปีแรก - Short Clip
World Trend - โรงแรมดังนิวยอร์กเปิดเว็บแฟชั่นออนไลน์ - Short Clip
World Trend - แอปเปิลเปิดตัวไอโฟนใหม่รองรับ 2 ซิม - Short Clip
World Trend - Nissan Leaf E+ แล้วในญี่ปุ่น - Short Clip
World Trend - ฟูจิฟิล์มเปิดตัวกล้องมีเดียมฟอร์แมตใหม่ - Short Clip
World Trend - วอลโว่เพิ่มความปลอดภัยให้คนขี่จักรยาน - Short Clip
World Trend - กูเกิลเผยภาพ ‘พิกเซล 3’ ก่อนเปิดตัวเดือนหน้า - Short Clip
World Trend - เทสลาปิดโชว์รูมลดต้นทุน เดินหน้าขายออนไลน์ - Short Clip
World Trend - เสี่ยวมี่เปิดตัว Redmi Note 5 ในไทย - Short Clip
World Trend - ผลทดสอบชี้ แบตไอโฟนหมดไวกว่าที่โฆษณา - Short Clip
World Trend - กูเกิลเปิดตัว 'ยูทูบมิวสิก' และ 'ยูทูบพรีเมียม' - Short Clip
World Trend - Fight Camp เปลี่ยนห้องให้เป็นยิมชกมวย - Short Clip
World Trend - โดรนพ่นไฟช่วยภารกิจดับไฟป่า - Short Clip
Jul 18, 2019 04:20

สำนักพิมพ์ลดการขายหนังสือเรียนเล่ม

Pearson สำนักพิมพ์หนังสือเรียนรายใหญ่ของโลกจากอังกฤษ ประกาศปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัล ซึ่งหนังสือที่พิมพ์ด้วยกระดาษเป็นเล่ม ๆ ค่อย ๆ เสื่อมความนิยมลงเรื่อย ๆ ด้วยการหันมาพัฒนาหนังสือเรียนดิจิทัล หรือ e-textbook เป็นแนวทางหลัก เพื่อให้นักเรียนหันมาใช้ e-textbook ซึ่งสามารถอัปเดตเนื้อหาการเรียนได้อย่างต่อเนื่อง แทนการใช้หนังสือเรียนเป็นเล่ม ๆ แบบดั้งเดิม ซึ่งปกติแล้ว จะมีการปรับปรุงเนื้อหาทุก ๆ 3 ปี แต่หลังจากนี้ Pearson จะลดความถี่ในการปรับปรุงเนื้อหาลง และจะเปลี่ยนโมเดลการทำธุรกิจจากการขายหนังสือเรียน มาเป็นให้เช่าหนังสือเรียนแทน ซึ่งจะช่วยนักเรียนประหยัดค่าใช้จ่ายและช่วยลดการใช้ทรัพยากรกระดาษในการพิมพ์หนังสือด้วย

Pearson มีหนังสือเรียนวางจำหน่ายอยู่ขณะนี้ประมาณ 1,500 เล่ม โดยในปีนี้ มีหนังสือเรียน 500 เล่ม ที่ได้รับการอัปเดตเนื้อหา แต่ในปีหน้า จะมีหนังสือเรียนแค่ 100 เล่มเท่านั้น ที่ได้รับการอัปเดตเนื้อหา อย่างไรก็ตาม จอห์น ฟัลลอน ซีอีโอของ Pearson ให้สัมภาษณ์ว่า บริษัทจะยังพิมพ์หนังสือเรียนแบบกระดาษต่อไป แต่สัดส่วนจะลดลงเรื่อย ๆ สอดคล้องกับวิธีการเรียนรู้ในยุคสมัยใหม่ ที่เน้นการมีส่วนร่วมของนักเรียนมากกว่าการท่องหนังสือแบบเดิม ซึ่งสื่อการเรียนรู้แบบดิจิทัลทำหน้าที่ตรงนี้ได้ดีกว่า

e-textbook ช่วยให้นักเรียนและนักศึกษามีความคล่องตัวในการไปเรียนมากขึ้น เพราะไม่ต้องแบกหนังสือเรียนหลายเล่มในกระเป๋า เนื้อหาก็สามารถอัปเดตได้ตลอดเวลา ซึ่งขณะนี้ Pearson มีสัดส่วนรายได้จาก e-textbook เกินครึ่งหนึ่งแล้ว ผู้บริหารจึงคิดว่านี่เป็นเวลาที่เหมาะสมในการปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัลแบบเต็มตัว เหมือนกับอุตสาหกรรมเพลงหรือภาพยนตร์ที่คนรุ่นใหม่คุ้นเคยกับการสตรีมมิง แทนการซื้อซีดีเพลง หรือแผ่นดีวีดีภาพยนตร์


โดรนพ่นไฟช่วยภารกิจดับไฟป่า

โดรนกลายมาเป็นอุปกรณ์ที่ขายดีและได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำไปใช้งานในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายรูป ถ่ายภาพยนตร์ งานด้านเกษตรกรรม หรืองานกู้ภัย ซึ่งล่าสุด ได้มีการคิดค้นเครื่องพ่นไฟสำหรับติดตั้งเข้ากับโดรน เพื่อใช้ในภารกิจดับไฟป่า หรืองานอันตรายอื่น ๆ ที่มนุษย์ไม่สามารถทำได้ โดยเครื่องพ่นไฟตัวนี้มีชื่อว่า Throwflame TF-19 Wasp ซึ่งสามารถติดตั้งบริเวณใต้ท้องโดรนขนาดใหญ่ บรรทุกน้ำมันได้ 1 แกลลอน พ่นได้ระยะทางไกลสูงสุด 25 ฟุต หรือประมาณ 9 เมตร และพ่นไฟต่อเนื่องได้นาน 100 วินาที 

โดรนพ่นไฟมีประโยชน์อย่างมากในการควบคุมไฟป่าด้วยการชิงเผาพื้นที่ป่าบางส่วน เพื่อลดปริมาณเชื้อเพลิงในป่าลง ก่อนที่จะเกิดไฟป่าของจริง ซึ่งจะช่วยลดความรุนแรงของไฟป่าลงได้มาก เพราะขอบเขตความเสียหายถูกกำหนดไว้แล้วล่วงหน้า นอกจากนี้ โดรนพ่นไฟยังสามารถใช้เคลียร์สายไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้งาน รวมถึงพ่นไฟทำลายรังต่อจากระยะไกล ซึ่งมีความปลอดภัยมากกว่าการให้มนุษย์เข้าไปทำลายด้วยตัวเองในระยะใกล้

 ตามกฎหมายสหรัฐฯ โดรนพ่นไฟไม่ถือว่าเป็นอาวุธ และคนทั่วไปสามารถนำไปใช้งานได้ แต่โดรนที่จะติดตั้ง เครื่องพ่นไฟรุ่นนี้ได้ ต้องเป็นโดรนขนาดใหญ่ที่มีความสามารถในการแบกรับน้ำหนักได้อย่างน้อย 2.2 กิโลกรัม ซึ่ง Throwflame TF-19 Wasp มีราคาอยู่ที่ 1,499 ดอลลาร์ หรือประมาณ 46,000 บาท เริ่มวางจำหน่ายในสหรัฐฯ ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 


Sony A7R IV กล้องฟูลเฟรม 61 ล้านพิกเซล

Sony เปิดตัวกล้องมิร์เรอร์เลสฟูลเฟรมรุ่นใหม่ล่าสุด A7R Mark IV ซึ่งมาพร้อมความละเอียด 61 ล้านพิกเซล ซึ่งสูงกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ Mark III ที่มีความละเอียด 42.4 ล้านพิกเซล โดยเซนเซอร์ที่ใช้มีชื่อว่า BSI-CMOS ที่ให้ dynamic range กว้างสุดถึง 15 สต็อป, ระบบโฟกัสใช้เทคโนโลยี hybrid AF ที่มีจุดโฟกัสถึง 567 จุด ครอบคลุม 74 เปอร์เซ็นต์ของเฟรมภาพ, พร้อมระบบออโตโฟกัสแบบ real-time ที่ติดตามการโฟกัสได้ทั้งดวงตาของมนุษย์ และดวงตาสัตว์ สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้ 10 ภาพต่อวินาที และถ่ายต่อเนื่องได้ถึง 68 ภาพ มาพร้อมระบบกันสั่น 5 แกน 

กล้อง Sony A7R Mark IV ถูกออกแบบให้มีขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อย เพื่อความมั่นคงเวลาถือถ่ายรูป ปุ่มกดบนตัวกล้องบางปุ่มถูกเปลี่ยนเพื่อความง่ายในการควบคุม บอดี้กล้องถูกออกแบบให้กันน้ำและกันฝุ่นได้ดีกว่าเดิม ซึ่งกล้อง Sony A7R คือกล้องมิร์เรอร์เลสฟูลเฟรมรุ่นท็อปสุดของ Sony ที่เน้นการถ่ายภาพได้ความละเอียดสูง เหมาะสำหรับช่างภาพมืออาชีพ ที่แม้จะขยายรูปให้ใหญ่ขึ้นก็ยังคงเห็นรายละเอียดทุกอย่างครบถ้วน

Sony A7R Mark IV มีกำหนดเริ่มวางขายในเดือนกันยายนนี้ โดยราคาบอดี้กล้องอย่างเดียวอยู่ที่ 3500 ดอลลาร์ หรือประมาณ 108,000 บาท

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
184Article
76559Video
0Blog