สหรัฐฯ ออกคำสั่งให้บริษัทผู้ให้บริการสตรีมเพลง อย่างสปอติฟาย หรือ แอปเปิลมิวสิก แบ่งรายได้ให้ศิลปินเพิ่มขึ้นอีกราว 5 เปอร์เซ็นต์ จนถึงปี 2022 หลังมีศิลปินหลายคนออกมาเรียกร้องว่าไม่ได้รับเงินค่าลิขสิทธิ์เพลงอย่างเพียงพอ
คณะกรรมการคุ้มครองลิขสิทธิ์ของสหรัฐอเมริกา หรือ ซีอาร์บี มีคำสั่งปรับเพิ่มสัดส่วนรายได้ที่ผู้ให้บริการสตรีมเพลง ต้องจ่ายให้กับศิลปินหรือบริษัทผู้จัดจำหน่ายเพลงที่ดูแลเรื่องการเก็บค่าลิขสิทธิ์ให้ เช่น Sony/ATV Music Publishing ด้วยการเพิ่มจากเดิม 10.5 เปอร์เซ็นต์ เป็นอย่างน้อย 15.1 เปอร์เซ็นต์ ครอบคลุมไปจนถึงปี 2022 หลังจากที่ศิลปินจำนวนมากวิพากษ์วิจารณ์ว่า ไม่ได้รับเงินค่าลิขสิทธิ์จากบริษัทสตรีมเพลงอย่างเพียงพอ
สำหรับคำสั่งดังกล่าวมีขึ้นหลังสมาคมผู้จัดจำหน่ายเพลงของสหรัฐฯ และสมาคมนักแต่งเพลงแห่งชาติในเมืองแนชวิลล์ ยื่นคำร้องต่อซีอาร์บีเมื่อปีที่แล้ว เพื่อเรียกร้องให้บรรดาผู้สตรีมเพลงปรับสัดส่วนค่าตอบแทนดังกล่าว แต่บรรดาผู้ให้บริการสตรีมมิงหลายราย ไม่ว่าจะเป็น Spotify, Apple Music, Alphabet Inc, Pandora Media Inc. และ Amazon.com ต่างออกมาคัดค้าน โดยค่าตอบแทนอัตรา 10.5 เปอร์เซ็นต์ ถูกกำหนดขึ้นในปี 2012 ที่การดาวน์โหลดเพลงจากโลกออนไลน์ยังไม่ได้รับความนิยมนัก
นอกจากนี้ บรรดาศิลปินยังเรียกร้องให้บริษัทจ่ายเงินให้กับศิลปิน ในแต่ละครั้งที่เพลงของศิลปินถูกเปิดในแพลตฟอร์มของผู้ให้บริการอีกด้วย แต่ในขณะนี้ตัวแทนของผู้มห้บริการสตรีมมิงหลายราย ก็ยังคงไม่ได้แสดงความคิดเห็น หรือไม่มีท่าทีตอบกลับคำสั่งนี้แต่อย่างใด
ธุรกิจสตรีมเพลงเติบโตขึ้นต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยยอดขายจากการสตรีมเพลงทั่วโลกปรับตัวขึ้น 60 เปอร์เซนต์ในปี 2016 ขณะที่ธุรกิจดังกล่าวยังครองส่วนแบ่งทางการตลาดเพลงสูงที่สุดในสหรัฐ ซึ่งหากมีการปรับขึ้นจริง แน่นอนว่าศิลปินจะได้ประโยชน์จากค่าลิขสิทธิ์ที่เพิ่มขึ้น แต่อีกทางหนึ่งหากผู้ให้บริการรู้สึกว่ากำลังจะเสียประโยชน์ ก็อาจจะมีการเรียกเก็บค่าบริการเพิ่มจากผู้บริโภค