ไม่พบผลการค้นหา
World Trend - ยุโรปทดสอบเทคโนโลยีความปลอดภัยบนท้องถนนแบบใหม่ - Short Clip
World Trend - ทำไม Siri ไม่เก่งเท่าผู้ช่วยส่วนตัวอื่น - Short Clip
World Trend - แอปเปิลรับวิศวกรเพิ่ม เร่งพัฒนา 'สิริ' - Short Clip
World Trend - Google Assistant ปรับแต่งเสียงเรียกใช้ได้แล้ว - Short Clip
World Trend - บริษัทญี่ปุ่นใช้ปัญญาประดิษฐ์ช่วยหางาน - Short Clip
World Trend - Samsung เผยคอนเซ็ปต์ผลิตโดรนควบคุมด้วยตา - Short Clip
World Trend - Microsoft เปิดตัวแอปฯ ถ่ายโอนรูปภาพคล้าย Airdrop - Short Clip
World Trend - คำสั่งเสียง AI ทำให้เกิดอคติทางเพศสภาพ - Short Clip
World Trend - UN เผย ไทยติดอันดับ 10 แหล่งท่องเที่ยวฮิต 2017 - Short Clip
World Trend - 'สลัดผักพร้อมกิน' มื้อด่วนฮิตในเกาหลีใต้ - Short Clip
World Trend - Huawei ครองยอดขายสูงสุดในตลาดสมาร์ตโฟน - Short Clip
World Trend - ในอีก 2 ปี 83% ของงานองค์กรจะอยู่ใน 'คลาวด์' - Short Clip
World Trend - Nissan Leaf E+ แล้วในญี่ปุ่น - Short Clip
World Trend - Acer เปิดตัวลูกปัดสวดมนต์อัจฉริยะ พร้อมวางจำหน่ายในฮ่องกง - Short Clip
World Trend - AT&T เตรียมให้บริการ 5G ปลายปีนี้ - Short Clip
World Trend - เทรนด์การดื่มไวน์กำลังมาแรงในจีน - Short Clip
World Trend - พบแพทย์ผ่านแอปฯ แนวทางใหม่ของผู้ป่วยยุคดิจิทัล - Short Clip
World Trend - 'นิสสัน' เผยโฉมรถไอศกรีมไฟฟ้า - Short Clip
World Trend - FBI, CIA, NSA เตือนคนอเมริกันอย่าใช้สมาร์ทโฟนหัวเว่ย - Short Clip
World Trend - Google Assistant รองรับภาษาไทยแล้ว - FULL EP.
World Trend - นักวิจัยพัฒนา 'e-skin' ให้หุ่นยนต์รับความรู้สึกเหมือนคน - Short Clip
Feb 12, 2018 10:50

Trending Now 12 กุมภาพันธ์ 2561

นักวิจัยพัฒนา 'e-skin' ให้หุ่นยนต์รับความรู้สึกเหมือนคน

เจียนเหลียง เสี่ยว (Jianliang Xiao) นักวิจัยและวิศวกรประจำมหาวิทยาลัยโคโลราโดบาวล์เดอร์ (Colorado Boulder) พัฒนาผิวหนังอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อี-สกิน (e-skin) ที่สามารถเลียนแบบฟังก์ชันการทำงานคล้ายคลึงกับผิวหนังของมนุษย์ได้ โดยอี-สกินนี้สามารถรับรู้แรงกด อุณหภูมิ และแรงสั่นสะเทือนได้  ซึ่งที่จริงแล้วผิวหนังอิเล็กทรอนิกส์ถูกคิดค้นขึ้นมาตั้งแต่ปี 2011 แต่อี-สกินในเวอร์ชันนี้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ และยังช่วยลดของเสีย รวมถึงต้นทุนการผลิตได้ไม่น้อย

อี-สกิน ผลิตจากโพลิเมอร์ และธาตุเงินที่เล็กระดับอนุภาคนาโน จึงทำให้อี-สกินมีความโค้งคล้ายนิ้วมือและนิ้วเท้า โดย เจียนเหลียง เสี่ยว ผู้พัฒนา บอกว่าอีสกินจะช่วยมนุษย์และหุ่นยนต์มีปฏิสัมพันธ์กันมากขึ้น โดยเฉพาะหุ่นยนต์ด้านการแพทย์ที่จะเข้ามาช่วยดูแลเด็กและผู้สูงอายุในอนาคต เช่น ในกรณีที่หุ่นยนต์สามารถรับรู้อุณหภูมิผ่านการใช้นิ้วแตะบริเวณผิวหนังมนุษย์ ก็จะสามารถบอกอุณหภูมิของร่างกายของมนุษย์ได้ และการที่หุ่นยนต์มีผิวหนัง จะช่วยไม่ให้หุ่นยนต์สัมผัสมนุษย์แล้วได้รับบาดเจ็บนั่นเอง นอกจากนี้ ยังคาดจะมีการนำอี-สกินมาใช้กับขาเทียมและแขนเทียม ช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถรับความรู้สึกจากบริเวณนั้น ๆ ว่าร้อนหรือเย็นเกินไป ซึ่งผลการวิจัยบอกว่า อี-สกินสามารถรักษาตัวเองได้ แต่ในกรณีที่เสียหายจนเกินจะเยียวยา สามารถนำอี-สกินนั้นมาแช่ในสารละลายเพื่อแยกธาตุเงินอนุภาคนาโนและนำกลับมาใช้ใหม่ได้

Google เตรียมอ้างลิขสิทธิ์ในรูปภาพให้เด่นชัดมากขึ้น 

เกตตี ผู้ให้บริการรูปภาพออนไลน์ กลับมาร่วมมือกับกูเกิลให้สามารถใช้ภาพของทางเกตตีได้อย่างถูกต้องตามลิขสิทธิ์อีกครั้ง หลังจากที่เกตตีได้ฟ้องกูเกิลข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์รูปภาพความละเอียดสูงของทางบริษัทเมื่อเดือนเมษายนในปี 2016 และถูกสหภาพยุโรปปรับค่าเสียหายมูลค่ากว่า 2.42 พันล้านยูโร หรือประมาณ 9.4 พันล้านบาท ไปเมื่อเดือนมิถุนายนในปีที่ผ่านมา

การกลับมาร่วมมือกันในครั้งนี้ ทำให้ผู้ใช้งานกูเกิลสามารถใช้งานรูปภาพและบริการของเกตตีได้อย่างถูกต้องตามลิขสิทธิ์ โดยกูเกิลเตรียมปรับเปลี่ยนการค้นหาภาพให้มีการระบุที่มาของภาพชัดเจนมากขึ้น รวมไปถึงการอ้างลิขสิทธิ์ให้โดดเด่นขึ้น และลบการเชื่อมต่อลิงก์ไปยัง URL ของรูปภาพด้วย ดอว์น แอรีย์ ซีอีโอของเกตตีกล่าวว่า การร่วมมือครั้งนี้จะทำให้เกิดการพูดกันระหว่างกูเกิล ช่างภาพ และผู้เผยแพร่รูปภาพมากขึ้น และเป็นการเพิ่มการให้เครดิตรูปภาพ และระบุที่มาของรูปภาพมากขึ้นด้วย

ผลทดสอบ Siri ผ่าน Apple Homepod ตอบถูกเพียง 52%

ลูปเวนเจอร์ เว็บไซต์เทคโนโลยีต่างประเทศ รายงานผลการทดสอบ 'แอปเปิลโฮมพอด' หลังเปรียบเทียบกับลำโพงอัจฉริยะเจ้าอื่นในท้องตลาด โดยใช้คำถามจากผู้ร่วมทดสอบกว่า 782 คำถาม และทดสอบคุณภาพเสียงและความสะดวกในการใช้งาน ผลปรากฏว่าโฮมพอดสามารถเข้าใจคำสั่งถึง 99.4 เปอร์เซ็นต์ แต่ตอบถูกต้องเพียง 52.3 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

ในขณะเดียวกัน Google Assistant ผู้ช่วยคำสั่งเสียงอัจฉริยะใน 'กูเกิลโฮม' สามารถตอบสนองและตอบคำถามได้ถูกต้องถึง 81 เปอร์เซ็นต์ ตามมาด้วย Alexa ของแอมะซอนตอบคำถามได้แม่นยำถึง 64 เปอร์เซ็นต์ และคอร์ทานาจากไมโครซอฟต์ทำไปได้ 57 เปอร์เซ็นต์ สำหรับคำถามที่แอปเปิลโฮมพอดไม่สามารถตอบสนองได้ เช่น การนำทาง การอ่านอีเมล์ และการโทรออก ซึ่งเว็บไซต์ลูปเวนเจอร์ระบุว่า เมื่อไม่ถามคำถามเหล่านั้นแล้ว แอปเปิลโฮมพอดสามารถตอบสนองได้ถูกต้องถึง 67 เปอร์เซ็นต์ มีการคาดการณ์ว่าแอปเปิลจะสามารถจำหน่ายโฮมพอดได้ถึง 7 ล้านเครื่องภายในปีนี้ และจะโตขึ้นเป็น 11 ล้านเครื่องในปีหน้า และยังคาดการณ์อีกว่าแอปเปิลโฮมพอดจะได้ส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 12 เปอร์เซ็นต์ในตลาดลำโพงอัจฉริยะของปีนี้อีกด้วย

Voice TV
กองบรรณาธิการ วอยซ์ทีวี
184Article
76559Video
0Blog