เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์รายงานว่าตำรวจในกรุงปักกิ่งได้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบร้านอาหาร บาร์ และคาเฟ่ต่างๆ ที่อยู่บริเวณอูตาวโข่ว ซึ่งเป็นย่านมหาวิทยาลัยทางตอนเหนือของกรุงปักกิ่ง หลังจากสำนักงานตำรวจออกประกาศห้ามชาวต่างชาติเข้าร้านอาหารประเภทต่างๆ เกิน 10 คนในเวลาเดียวกันกับที่มีการประชุมใหญ่ประจำปีของพรรคคอมมิวนิสต์จีน
พนักงานร้านพิซซ่าแห่งหนึ่งในย่านนั้นกล่าวว่ าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอความร่วมมือทางร้านให้จำกัดจำนวนการให้บริการลูกค้าชาวต่างชาติ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา ช่วงหลังจากเวลา 20.00 น. ทุกวันศุกร์และเสาร์ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย และร้านจะถูกสั่งปิดทันทีถ้าไม่ปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าว เพราะในแต่ละคืนจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาสอดส่องตรวจดู พร้อมบันทึกภาพเป็นหลักฐานถ้าพบการกระทำผิด
เฟอร์นันโด นักศึกษาปริญญาโทของมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ซึ่งไม่ขอเปิดเผยนามสกุล เป็นผู้หนึ่งที่อาศัยอยู่ในย่านอู่ตาวโข่ว ให้สัมภาษณ์ว่า มาตรการดังกล่าวอาจจะเป็นการรักษาความสงบและการป้องกันเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ขึ้นในช่วงการประชุมที่สำคัญ แต่ขณะเดียวกันก็เป็นการกีดกันชาวต่างชาติ และเป็นการเลือกปฏิบัติของรัฐบาลจีน
ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันจันทร์ที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมา และจะดำเนินไปจนกระทั่งถึงวันที่ 22 มีนาคม
ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนตุลาคมปี 2016 ระหว่างการประชุมใหญ่สามัญของพรรคคอมมินิสต์จีน เคยมีคำสั่งปิดร้านอาหาร ผับ บาร์ ในย่านซานหลี่ตัน แหล่งบันเทิงยามค่ำคืนของกรุงปักกิ่งเป็นเวลา 10 วันเช่นกัน