รัฐบาลเกาหลีใต้ยืนยันว่าแม้เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้จะลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพกันภายในปีนี้ ที่นายมุนแจอิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ และนายคิมจองอึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ มีพันธสัญญาร่วมกันหลังการพบกันครั้งประวัติศาสตร์เมือวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา แต่กองทหารสหรัฐฯ ที่ประจำการอยู่ในเกาหลีใต้ประมาณ 29,000 นายนับตั้งแต่มีการลงนามสงบศึกชั่วคราวเมื่อปี 1953 จะยังคงอยู่ในเกาหลีใต้ต่อไป
ก่อนหน้านี้ นายคิมยื่นเงื่อนไขว่าเกาหลีเหนือจะยอมปลดอาวุธนิวเคลียร์ก็ต่อเมื่อไม่มีกองทหารสหรัฐฯ ในคาบสมุทรเกาหลีแล้ว แต่ในการเจรจาครั้งล่าสุดนายคิมระบุเพียงว่า เขาไม่เห็นว่าเกาหลีเหนือจะจำเป็นต้องมีอาวุธนิวเคลียร์ หากเสถียรภาพความมั่นคงของประเทศได้รับการรับรองจากเกาหลีใต้ โดยไม่ได้พูดถึงการถอทหารอเมริกันจากคาบสมุทรเกาหลีแต่อย่างใด
ด้านนายคิมอวี-คยอม ที่ปรึกษาประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ยืนยันว่าการคงอยู่ของทหารอเมริกันในเกาหลีใต้ ไม่เกี่ยวข้องกับการลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพกับเกาหลีเหนือ แต่เป็นเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับเกาหลีใต้
ในช่วงของการหาเสียงเลือกตั้ง รวมถึงหลังจากดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีแล้ว นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปรารภหลายครั้งว่าการคงทหารไว้ในเกาหลีใต้เป็นภาระทางงบประมาณ และสหรัฐฯ ต้องการให้เกาหลีใต้รับผิดชอบความมั่นคงของตัวเอง นอกจากนี้ ยังเคยมีกระแสข่าวลือว่านายทรัมป์พยายามจะถอนทหารอเมริกันทั้งหมด จากเกาหลีใต้ก่อนการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวที่เมืองพยองชาง เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่ทางทำเนียบขาวปฏิเสธข่าวลือนี้อย่างเด็ดขาด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: