ไม่พบผลการค้นหา
เกาหลีใต้แถลงว่า เครื่องบินเจ็ทของเกาหลีใต้ยิงเตือนหลายร้อยนัด หลังเครื่องบินลาดตระเวนของรัสเซียรุกล้ำเข้าไปในน่านฟ้าเกาหลีใต้ 2 รอบ ด้านรัสเซียปฏิเสธว่าไม่ได้รุกล้ำน่านฟ้า พร้อมกล่าวหาว่านักบินเกาหลีใต้ไม่มีความเป็นมืออาชีพ

กระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้แถลงว่า เครื่องบินลาดตระเวนของรัสเซียรุกล้ำเขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศของเกาหลีใต้ โดยไม่ได้แสดงตนก่อน 2 รอบ บริเวณเกาะด็อกโดหรือเกาะทะเคชิมะ ซึ่งเป็นพื้นที่พิพาทระหว่างเกาหลีใต้และญี่ปุ่น เกาหลีใต้จึงส่งเครื่องบินเจ็ทขับไล่ เอฟ-15 และ เอฟ-16 ไปยิงเตือนรัสเซียรวม 360 นัด 

เกาหลีใต้ระบุว่า แม้ที่ผ่านมา เครื่องบินของรัสเซียและจีนก็เคยเข้าไปในพื้นที่แล้วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การเผชิญหน้ากันครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ระหว่างเกาหลีใต้และรัสเซีย โดยเกาหลีใต้ระบุว่า เครื่องบินลาดตระเวน เอ-50 ของรัสเซียลำนี้เป็นเครื่องบิน 1 ใน 3 ลำของรัสเซียที่รุกล้ำเขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศ ส่วนอีก 2 ลำเป็นเครื่องบิน เอช-6 ของกองทัพจีน แต่เครื่องบินของรัสเซียที่ถูกยิงเตือน บินรุกล้ำน่านฟ้ามาไกลกว่าลำอื่นๆ 

เขตน่านฟ้าของประเทศต่างๆ คือพื้นที่ 12 ไมล์ทะเลรอบชายแดนของประเทศตัวเอง พื้นที่นี้จะอยู่ภายใต้การควบคุมของประเทศนั้นๆ ทั้งหมด แต่เขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศ (ADIZ) เป็นพื้นที่ที่ประเทศควบคุมจะขอให้นักบินแสดงตัวตน ตำแหน่ง และทิศทางที่เครื่องบินจะมุ่งไป แต่ไม่มีสิทธิอะไรผูกพันภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ

ชุงอุยยอง หัวหน้าสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติเกาหลีใต้ได้ส่งสารไปทักท้วงคณะมนตรีความมั่นคงของรัสเซียว่า เกาหลีใต้ไม่พอใจต่อสถานการณ์นี้อย่างมาก และหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก เกาหลีใต้จะใช้มาตรการที่รุนแรงขึ้นกว่าครั้งนี้

ด้านรัสเซียออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้รุกล้ำน่านฟ้าของเกาหลีใต้ และเครื่องบินทิ้งระเบิด Tu-95 ทั้ง 2 ลำของรัสเซียกำลังซ้อมแผนปฏิบัติการร่วมกับกองทัพจีนเหนือน่านน้ำสากลบริเวณทะเลตะวันออก ซึ่งเป็นไปตามแผนที่วางไว้แล้ว อีกทั้งเครื่องบินเจ็ทของเกาหลีใต้ไม่ได้ยิงเตือนรัสเซียแต่อย่างใด 

นอกจากนี้ รัสเซียยังกล่าวหาว่า นักบินขับไล่ของเกาหลีใต้ไม่มีความเป็นมืออาชีพ ไม่ติดต่อนักบินของรัสเซียก่อน ใช้เครื่องบิน F-16 ยิง บังคับเครื่องบินขับไล่รัสเซีย และคุกคามความมั่นคงของรัสเซีย 

ลอรา บิกเคอร์ ผู้สื่อข่าวบีบีซีประจำกรุงโซลระบุว่า เหตุเผชิญหน้ากันทางอากาศเกิดขึ้นขณะที่เครื่องบินรัสเซียซ้อมรบร่วมกับ ช่วงหลายปีที่ผ่านมา เกาหลีใต้กังวลเกี่ยวกับการรุกล้ำน่านฟ้าจากจีนมากขึ้น โดยปีที่แล้ว กองทัพจีนได้ซ้อมรบขนาดใหญ่กับกองทัพรัสเซียเป็นครั้งแรก ถือเป็นโอกาสที่จะแสดงแสนยานุภาพและการเป็นพันธมิตรของทั้งคู่ ส่วนคราวนี้เป็นการซ้อมรบร่วมกันอีกครั้งในคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งอาจเป็นความพยายามทดสอบหรือยั่วยุพันธมิตรของสหรัฐฯ ในช่วงที่จอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เดินทางไปถึงกรุงโซล

ทั้งนี้ การบินเหนือเกาะด็อกโดถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เนื่องจากเป็นพื้นที่พิพาทระหว่างเกาหลีใต้และญี่ปุ่น โดยญี่ปุ่นเรียกเกาะนี้ว่า เกาะทะเคชิมะ ซึ่งข้อพิพาทนี้ก็ยังดำเนินอยู่ และมีทีท่าจะตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ ท่ามกลางความขัดแย้งกันเลยการค้า

 ที่มา : BBC, CNN