กลุ่มอุตสาหกรรมสื่ออินเทอร์เน็ต อย่างเฟซบุ๊ก ไลน์ กูเกิล แสดงท่าทีกรณีไทยออกพ.ร.บ.ไซเบอร์ ว่า ผิดหวังอย่างยิ่ง รัฐบาลไทยจะมีอำนาจครอบจักรวาลในการสอดส่องโลกออนไลน์ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลของบริษัทเอกชน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า พันธมิตรอินเทอร์เน็ตเอเชีย หรือ AIC แสดงความเห็นต่อกรณีสภาของไทยซึ่งมาจากการแต่งตั้งของทหารผ่านร่าง พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ และร่างพ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 28 กุมภาพันธ์โดยบอกว่า รู้สึกผิดหวังอย่างยิ่ง โดย เจฟฟ์ เพน ผู้อำนวยการใหญ่ของ AIC กล่าวว่า กฎหมายเหล่านี้จะให้อำนาจอย่างกว้างขวางแก่รัฐบาลไทยในการสอดส่องการสื่อสารทางออนไลน์โดยอ้างเหตุจำเป็นเร่งด่วน หรืออ้างการป้องกันภัยคุกคาม จึงอาจส่งผลกระทบต่อข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลของบริษัทได้
เอไอซี ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์ เป็นการรวมตัวของสื่ออินเทอร์เน็ต ธุรกิจออนไลน์ และผู้ประกอบการด้านคอมพิวเตอร์ระดับแนวหน้า เช่น แอปเปิล ยาฮู แอมะซอน กูเกิล ทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก ไลน์ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ในขณะที่นักรณรงค์เสรีภาพสื่ออินเทอร์เน็ตวิจารณ์ว่ากฎหมายไซเบอร์เป็นเสมือน 'กฎอัยการศึกในโลกออนไลน์' ฝ่ายที่สนับสนุนกลับบอกว่า ไทยควรมีกฎหมายแบบนี้มานานแล้ว โดยประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญที่พิจารณาร่างพระราชบัญญัติทั้งสองฉบับชี้ว่า กฎหมายทั้งสองจะช่วยให้ประเทศไทยไม่ล้าหลังเพื่อนบ้านและนานาประเทศ
นอกจากนี้ บรรดานักกิจกรรมและนักธุรกิจเห็นว่ากฎหมายทั้งสองฉบับของไทยอาจถูกนำไปบังคับใช้โดยขาดการตรวจสอบถ่วงดุลจากฝ่ายตุลาการ และอาจนำไปสู่การใช้อำนาจโดยมิชอบ ลดทอนความเป็นส่วนตัว กระทบหลักนิติธรรม พร้อมกับเตือนว่า ภาระต่าง ๆ ที่กฎหมายเหล่านี้ก่อขึ้นอาจทำให้ธุรกิจต่างชาติพากันถอนกิจการออกจากประเทศไทย