ยูกันดาผ่านกฎหมายเก็บภาษีผู้ใช้โซเชียลมีเดีย โดยระบุว่าเป็นแนวทางยับยั้งพฤติกรรมช่างนินทาของประชาชน
รัฐสภายูกันดามีมติผ่านกฎหมายเก็บภาษีผู้ใช้โซเชียลมีเดีย เช่น เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ไวเบอร์ และวอตส์แอป หลังจากที่นายโยเวรี มูเซเวนี ประธานาธิบดี ได้นำเสนอและเรียกร้องแนวทางนี้ไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยระบุว่าโซเชียลมีเดียกระตุ้นให้ประชาชนมีพฤติกรรมนินทาผู้อื่น ซึ่งนอกจากจะเป็นการสิ้นเปลืองเวลาแล้ว ยังทำให้ประเทศขาดรายได้
กฎหมายดังกล่าวเริ่มมีผลบังคับใช้วันนี้ (1 มิ.ย.) โดยจะจัดเก็บค่าใช้โซเชียลมีเดีย 200 ชิลลิงยูกันดา หรือ 1 บาท 70 สตางค์ ต่อวัน อย่างไรก็ตาม กลับไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจนว่า รัฐบาลจะคำนวณการใช้หรือจัดเก็บอย่างไรในทางปฏิบัติ ซึ่งปัจจุบัน มีประชากรยูกันดาใช้อินเทอร์เน็ตทั้งสิ้นราว 17 ล้านคน หรือคิดเป็น 41 เปอร์เซ็นต์ของประชากรในประเทศ
เมื่อปี 2016 โซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มต่าง ๆ ในยูกันดาเคยถูกระงับใช้มาแล้วรอบหนึ่ง ในช่วงที่มีการเลือกตั้งประธานาธิบดี ซึ่งนายมูเซเวนีระบุว่าเป็นแนวทางการยับยั้งการเผยแพร่ข้อมูลเท็จในช่วงเปลี่ยนผ่านทางการเมือง โดยนายมูเซเวนีดำรงตำแหน่งประธานาธิบดียูกันดาตั้งแต่ปี 1986 หรือ 32 ปีมาแล้ว