แอปพลิเคชันเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และวอตซ์แอป จะระงับการติดตั้งในโทรศัพท์หัวเว่ยรุ่นใหม่ ขณะที่ กูเกิลออกมาตอบโต้รัฐบาลสหรัฐฯ โดยระบุว่าการแบนหัวเว่ยอาจนำความเสียหายมาสู่สหรัฐฯ มากกว่า
เฟซบุ๊กจะไม่อนุญาตให้มีการติดตั้งแอปพลิเคชันในเครื่องมือสื่อสารทุกชนิดของหัวเว่ยรุ่นใหม่ รวมไปถึงแอปพลิเคชันในเครือบริษัทของเฟชบุ๊กอย่าง อินสตาแกรมและวอตซ์แอปด้วยเช่นกัน สืบเนื่องจากที่รัฐบาลสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำบริษัทเทคโนโลยีสัญชาติจีน และระบุให้บริษัทสัญชาติอเมริกันระงับการทำธุรกิจกับบริษัทเทคโนโลยีต่าง ๆ จากจีน
ที่ผ่านมาแอปพลิเคชันอย่าง 'เฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ทวิตเตอร์' หรือ แอปพลิเคชันจองโรงเเรมอย่าง Booking.com นั้น จะถูกติดตั้งมาพร้อมกับตัวเครื่องมือสื่อสารของระบบแอนดรอยด์โดยอัตโนมัติอยู่แล้ว แต่ด้วยนโยบายของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการทำสงครามการค้ากับประเทศจีนนั้น ทำให้โทรศัพท์รุ่นใหม่ของหัวเว่ยจะไม่มีการติดตั้งแอปพลิเคชันดังกล่าวอีกต่อไป
การประกาศระงับการให้บริการระบบแอนดรอยด์จากกูเกิลนั้น ส่งผลให้หัวเว่ยได้พัฒนาระบบปฏิบัติการขึ้นเป็นของตนเองในระบบแอนดรอยด์เช่นกัน โดยมีการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าเป็นที่เรียบร้อยภายใต้ชื่อ 'ระบบปฏิบัติการหงเมิ่ง' โดยคาดว่าจะสามารถติดตั้งและใช้งานได้ในโทรศัพท์ของหัวเว่ยได้ในช่วงต้นปี 2020
ด้าน Financial Times รายงานว่า กูเกิลออกมาเตือนรัฐบาลสหรัฐฯ กรณีการระงับการทำธุรกิจกับหัวเว่ย เนื่องจากกูเกิลระบุว่า หากกูเกิลระงับการให้บริการแอนดรอยด์ให้แก่เครื่องมือสื่อสารของหัวเว่ยนั้น จะส่งผลให้สหรัฐฯ ไม่สามารถป้องกันหรือจัดการระบบแอปพลิเคชันในแอนดรอยด์ได้ จากการที่หัวเว่ยได้พัฒนาระบบปฏิบัติการเป็นของตนเองและอาจจะไม่มีระบบป้องกันการล้วงข้อมูล ซึ่งอาจสร้างปัญหาด้านความมั่นคงมากกว่าเดิม