สหภาพยุโรปเตรียมออกมาตรการปรับเว็บไซต์และโซเชียลมีเดียที่ไม่ลบข้อความที่ฝ่ายหัวรุนแรงโพสต์ภายใน 1 ชั่วโมง โดยเชื่อว่าจะสามารถลดความรุนแรงในสังคมได้มากขึ้น
ประธานสหภาพยุโรปยื่นคำร้องขอออกมาตรการลงโทษบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของโลกที่เป็นเจ้าของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น บริษัทกูเกิล เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และอื่น ๆ ด้วยการปรับเงิน หากแพลตฟอร์มเหล่านี้ไม่สามารถลบโพสต์ หรือข้อความที่เข้าข่ายสร้างความรุนแรงได้ภายในระยะเวลา 1 ชั่วโมง หลังจากที่ข้อมูลดังกล่าวถูกเผยแพร่บนโลกออนไลน์
ก่อนหน้านี้ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สหภาพยุโรป หรือ EU ได้ให้เวลากับกลุ่มบริษัทด้านเทคโนโลยีเหล่านี้เป็นเวลา 3 เดือนเต็มในการจัดการกับข้อความสุดโต่งจากกลุ่มหัวรุนแรงที่เผยแพร่บนแพลตฟอร์ม ซึ่งอาจสร้างความไม่สงบให้เกิดขึ้นในสังคม แต่สมาชิกของสหภาพยุโรปลงความเห็นว่า ปัจจุบันยังคงไม่มีความคืบหน้าที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรมให้เห็นจากทุกบริษัท จึงจำเป็นต้องออกมาเคลื่อนไหวทางกฎหมายเพิ่มเติม เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
หากมาตรการดังกล่าวได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการ คณะกรรมการของสหภาพยุโรปต้องการให้ทุกบริษัทไอทีลบและทำลายข้อความ หรือคอนเทนต์ใด ๆ ก็ตาม ซึ่งเข้าข่ายว่าเป็นข้อมูลที่เกี่ยวเนื่องหรือถูกเผยแพร่เพื่อประโยชน์ทางใดทางหนึ่งกับกลุ่มหัวรุนแรงภายใน 1 ชั่วโมง ซึ่งรวมถึงเนื้อหาที่สนับสนุนกิจกรรมของกลุ่มที่มีความคิดสุดโต่ง หรือแม้กระทั่งข้อความแนะนำวิธีการก่อความไม่สงบ ไม่ว่าวิธีใดก็ตาม มิเช่นนั้นแล้ว กลุ่มบริษัทไอทีเหล่านี้จะต้องรับผิดชอบด้วยการจ่ายค่าปรับเป็นเงิน
นอกจากนั้น ทุกบริษัทจะต้องคิดค้นเครื่องมือที่จะช่วยจับตาพฤติกรรมที่เข้าข่าย พร้อมทั้งต้องจัดส่งรายงานความโปร่งใสประจำปีต่อคณะกรรมการ เพื่อแสดงหลักฐานของความตั้งใจในการปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าว