สมาร์ตโฟนกลายมาเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ล่าสุด ผลวิจัยในสหรัฐฯ พบว่ามีผู้ขับขี่รถยนต์ที่ขาดสมาธิเพราะใช้สมาร์ตโฟนเพิ่มมากขึ้น
เซนไดรฟ์ (Zendrive) บริษัทวิเคราะห์พฤติกรรมการขับขี่รถยนต์ในสหรัฐฯ สำรวจพบว่าปีนี้ ผู้ขับขี่รถยนต์ในทุกเมืองของสหรัฐฯ ขาดสมาธิในการขับรถยนต์เพิ่มขึ้น 10 % เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยประเมินจากข้อมูลผู้ขับขี่ 1,800,000 คน คิดเป็นระยะทางขับรถรวมกว่า 4,500 ล้านไมล์ โดยใช้ซอฟต์แวร์ในสมาร์ตโฟน ตรวจจับว่าผู้ขับขี่ใช้สมาร์ตโฟนบ่อยแค่ไหนขณะขับรถ พบว่ามีผู้ขับขี่ที่ติดสมาร์ตโฟนมากกว่า 10 % และที่น่ากลัวกว่านั้นคือ มีผู้ขับขี่ที่เข้าข่ายใช้สมาร์ตโฟนจนไม่สนใจถนน มากถึง 28 %
ผลสำรวจของเซนไดรฟ์บ่งชี้ว่า คนขับรถที่ติดสมาร์ตโฟน ใช้ทั้งคุยโทรศัพท์ ส่งและอ่านข้อความ เลือกเพลงที่จะเปิดในรถ หรือใช้แอปพลิเคชันแผนที่นำทาง ล้วนเป็นพฤติกรรมที่อันตราย เพราะทำให้ผู้ขับขี่ละสายตาจากถนนบ่อยเกินไป และผู้ขับขี่ส่วนมากก็ยอมรับว่า การใช้สมาร์ตโฟนขณะขับรถเป็นเรื่องอันตราย แต่ก็ยังอดทำไม่ได้
ข้อมูลของเซนไดรฟ์ก็สอดคล้องกับรายงานของสถาบันวิจัยด้านความปลอดภัยบนถนนหลวง พบว่าผู้ขับขี่รถยนต์ใช้สมาร์ตโฟนขณะขับรถเพิ่มขึ้นถึง 57 % ในปี 2017 เมื่อเทียบกับข้อมูลเมื่อปี 2014 และอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนท้องถนนก็มีสาเหตุมาจากการใช้สมาร์ตโฟนขณะขับรถเพิ่มขึ้นด้วย