ปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวประสบความสำเร็จ ขึ้นอยู่กับระบบขนส่งมวลชนที่มีคุณภาพ ซึ่งญี่ปุ่นถือเป็นอีกประเทศที่มุ่งมั่นพัฒนาระบบขนส่งมวลชนอย่างต่อเนื่อง และล่าสุด กำลังเร่งปรับตัว เพื่อให้ทันรองรับนักท่องเที่ยวช่วงอีเวนต์กีฬาใหญ่ที่จะมาถึง รวมถึงโอลิมปิกในปี 2020
อุตสาหกรรมแท็กซี่ญี่ปุ่นกำลังเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ จากการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างเป็นประวัติการณ์ ซึ่งญี่ปุ่นไม่เพียงต้องรับมือกับกระแสการท่องเที่ยวครั้งใหญ่ในช่วงกีฬาโอลิมปิกปี 2020 เท่านั้น แต่ยังต้องต้อนรับนักท่องเที่ยวและนักกีฬาระหว่างการแข่งขันรักบี้ชิงแชมป์โลก Rugby World Cup ในปี 2019 ด้วย
โดยรัฐบาลญี่ปุ่นตั้งเป้าจะต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ได้ปีละ 40 ล้านคนภายในปี 2020 ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจากปี 2017 ที่มีนักท่องเที่ยวรวม 28 ล้านคน ทำให้บริษัทผู้ประกอบการแท็กซี่ต้องเร่งปรับรูปแบบการบริการให้สอดรับกับความต้องการของผู้บริโภคมากที่สุด// และแม้ว่าประมาณการจำนวนแท็กซี่ในกรุงโตเกียวจะไม่เปลี่ยนแปลงจาก 35,000 คัน อย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนัก แต่ผู้ประกอบการบางเจ้าก็เริ่มหันไปจ้างพนักงานขับรถต่างชาติ เพื่อที่จะได้ให้บริการลูกค้าต่างชาติได้ดียิ่งขึ้น
เช่น บริษัทแท็กซี่โตเกียว 'ฮิโนะมารุ' ที่จ้าง โวล์ฟกัง เลอเกอร์ ซึ่งพูดคล่องทั้งภาษาญี่ปุ่น อังกฤษ และเยอรมัน ให้มาเป็น 1 ใน 22 พนักงานขับรถชาวต่างชาติของบริษัท เพื่อเอาใจลูกค้าต่างชาติ ให้วางใจใช้บริการมากขึ้น
ด้านบริษัทรถยนต์ชื่อดังอย่าง 'โตโยต้า' ก็เปิดตัวรถรุ่น JPN Taxi ไปเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว เพื่อตอบโจทย์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสะดวกต่อผู้ใช้วีลแชร์ยิ่งขึ้น ซึ่งสามารถรองรับได้ทั้งผู้พิการ ผู้สูงอายุ และนักกีฬาพาราลิมปิกโดยบริษัทหวังว่าจะเพิ่มจำนวน JPN Taxi ให้มากเป็น 1 ใน 3 ของแท็กซี่ที่วิ่งให้บริการทั้งหมดของบริษัทได้ภายในปี 2020