ในขณะที่ไทยเผชิญมลพิษทางอากาศมาหลายวัน จีนเป็นอีกประเทศที่ประสบปัญหาทางอากาศมาอย่างต่อเ��ื่อง ซึ่งทางการพยายามแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง โดยล่าสุด กรมอุตุนิยมวิทยาแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ออกมาเผยว่าในปี 2017 คุณภาพอากาศของจีนดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
กรมอุตุนิยมวิทยาแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เปิดเผยรายงานว่า หลังจากที่จีนประสบปัญหาหมอกควันอย่างรุนแรงทั่วประเทศกว่า 15 ครั้ง ในปี 2013 ปัจจุบันคุณภาพอากาศโดยรวมค่อย ๆ ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในแต่ละปี โดยปีที่แล้วจีนประสบปัญหาหมอกควันในระดับรุนแรงรวม 6 ครั้ง ซึ่งน้อยกว่าปี 2016 ถึง 5 ครั้ง และช่วงที่ปกติแล้วจะเกิดหมอกควันมากที่สุดอย่างในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม กลับประสบปัญหาหมอกควันเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ทำให้ในปี 2017 มีจำนวนวันที่เกิดหมอกควันเฉลี่ย 27.5 วัน น้อยกว่าในปี 2016 ถึง 10.5 วันด้วยกัน
ทั้งนี้ จางเหิงเตอ รองผู้อำนวยการศูนย์อุตุนิยมวิทยาสิ่งแวดล้อม ชี้ว่า เหตุที่คุณภาพอากาศดีขึ้นเป็นเพราะมีมาตรการลดการปล่อยก๊าซที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงสภาพอากาศที่เย็นอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าคุณภาพอากาศปีที่แล้วจะดีขึ้น แต่ยังคงเกิดมลพิษหนักเป็นครั้งคราว ทำให้ปัญหามลพิษทางอากาศยังคงเป็นเรื่องที่ต้องเฝ้าระวังและคุมเข้มต่อไป
โดยก่อนหน้านี้ กระทรวงคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของจีนได้เผยว่า ค่าฝุ่นละออง PM2.5 ใน 28 เมือง ได้ลดลง 11.7 เปอร์เซ็นต์ในปีที่แล้ว ซึ่งในนครปักกิ่งนั้นมีฝุ่นลดลงเฉลี่ย 58 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งทางการจีนวางแผนที่จะลดมวลฝุ่น PM2.5 ทั่วประเทศลงประมาณ 2 เปอร์เซ็นต์ภายในปีนี้ พร้อมผลักดันให้คุณภาพอากาศดีขึ้น 80 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2020