นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงภารกิจของพรรคเพื่อไทยหลังการคลายล็อคตามคำสั่ง คสช.ที่ 13/2561 โดยระบุว่ากระบวนการทุกขั้นตอนต้องเสร็จสิ้นภายในวันที่ 13 ธันวาคม 2561 พรรคเพื่อไทยจึงมีเวลาว่าจะตัดสินใจดำเนินการอย่างไร จะต้องปฏิบัติอย่างไรบ้าง เช่น ขั้นตอนการเลือกหัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค การจัดประชุมใหญ่เพื่ออนุมัติข้อบังคับฉบับแก้ไข และเพื่อให้ข้อบังคับการประชุมพรรค มีความสมบูรณ์มากที่สุด จะเปิดรับฟังความคิดเห็น จากสมาชิก ในหลายช่องทาง โดยทุกขั้นตอนจะไม่เร่งรีบ แต่จะไม่ใช้เวลามากเกินไป ซึ่งคาดว่าช่วงกลางเดือนตุลาคมจะสามารถจัดประชุมใหญ่ได้
ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทยเปิดเผยว่า เตรียมสอบถามไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง ถึงกรณีการทำไพรมารี่โหวต เพื่อขอความชัดเจน เพราะจากคำสั่งที่ 13 / 2561 ดูเหมือนพรรคการเมืองไม่จำเป็น ต้องทำสาขา หรือมีตัวแทนประจำจังหวัด แต่ในขั้นตอนรับฟังความคิดเห็นกลับให้รับฟังจากตัวแทนประจำจังหวัดหรือสาขาพรรคประจำจังหวัด จึงทำให้เกิดความสับสน
นายชูศักดิ์ ระบุด้วยว่า รูปแบบการเลือกกรรมการบริหารพรรคและหัวหน้าพรรค จะเปิดรับฟังความคิดเห็นจากสมาชิกอย่างกว้างขวาง และนำข้อสรุปต่างๆ ส่งให้กรรมการบริหารพรรคเป็นผู้ตัดสินใจ ซึ่งรูปแบบจะไม่ใช่การหยั่งเสียงเหมือนกับ ที่พรรคประชาธิปัตย์ ดำเนินการ
ขณะเดียวกันนายชูศักดิ์ ไม่เห็นด้วยกับการห้ามใช้ Social Media หาเสียงหรือสื่อสารกับสมาชิก วิธีการดังกล่าว สะท้อนแนวคิดในมิติการควบคุมเพียงด้านเดียว ไม่มองมิติ ของความเจริญก้าวหน้า ความเป็นประชาธิปไตยและการมีส่วนร่วม ซึ่งท้ายที่สุดกังวลว่า แนวทางดังกล่าวจะกระทบ กับการนำเสนอนโยบายการหาเสียงและกลายเป็นปัญหาเพราะเกิดการเลือกปฏิบัติ เนื่องจากฝ่ายที่สนับสนุนผู้มีอำนาจสามารถทำได้ แต่ฝ่ายเห็นต่างกลับถูกดำเนินการตรวจสอบ