สำนักข่าวซีซีทีวีของจีน รายงานว่าบริษัทตี้อี๋ ผู้ผลิตระบบตรวจสุขภาพอัจฉริยะ ประสบความสำเร็จในการทดสอบระบบตรวจวัดคลื่นสมองเพื่อประเมินอารมณ์ ความรู้สึก และระดับความเครียดของพนักงานในบริษัทต่างๆ ที่ต้องเผชิญกับภาระหน้าที่ที่มีความเครียดสูง ซึ่งจะช่วยให้บริษัทผู้จ้างงานสามารถประเมินสมรรถภาพของพนักงานได้อย่างแม่นยำ รวมถึงป้องกันไม่ให้พนักงานมีความเครียดหรือเหนื่อยล้าสะสม ลดอาการป่วยทางจิตใจ
ซีซีทีวีรายงานว่าบริษัทตี้อี๋ได้ทดสอบระบบตรวจวัดคลื่นสมองมาตั้งแต่เดือน ธ.ค.2558 โดยสุ่มทดสอบกับพนักงานขับรถไฟความเร็วสูงระหว่างมณฑล รวมถึงพนักงานฝ่ายผลิตของโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ทหาร ผู้ป่วย และนักศึกษาในมหาวิทยาลัย ซึ่งวิธีการจะรวมถึงการติดตั้งเครื่องวัดคลื่นสมองไว้กับหมวกที่ผู้เข้าร่วมการทดสอบระบบสวมใส่ ควบคู่ไปกับการใช้นาฬิกาอัจฉริยะตรวจจับจังหวะการเต้นของหัวใจ รวมถึงอุปกรณ์อัจฉริยะสำหรับคำนวณและประเมินผลอื่นๆ
บริษัทตี้อี๋ยืนยันว่าการประมวลผลตรวจวัดคลื่นสมองและชีพจร บ่งชี้ได้อย่างถูกต้องเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ว่าผู้สวมอุปกรณ์ที่ติดตั้งระบบตรวจวัดอัจฉริยะเหล่านี้อยู่ในอารมณ์ความรู้สึกแบบใด เช่น กรณีที่ผู้สวมอุปกรณ์เหนื่อยหรือเผลอหลับ จังหวะหายใจและชีพจรจะเปลี่ยนไปจากระดับปกติ หรือกรณีที่พนักงานอยู่ในภาวะเครียด ตระหนก หรือโกรธ จะส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงต่างๆ กับร่างกาย ช่วยให้ผู้บริหารมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจว่าควรจะให้พนักงานไปพักผ่อนหรือเข้ารับการรักษาบำบัดหรือไม่
ผลทดสอบระบบตรวจวัดคลื่นสมองของตี้อี๋ที่ดำเนินการร่วมกับสถาบันฝึกอบรมการบินของกองทัพอากาศในกรุงปักกิ่ง บ่งชี้ว่าสถาบันสามารถประเมินได้ว่านักเรียนการบินคนใดรู้สึกไม่มั่นคงทางอารมณ์ แม้ว่าการดูจากภายนอกจะมองเห็นได้ไม่ชัดเจน
บริษัทตี้อี๋ระบุว่าหากมีการใช้ระบบดังกล่าวอย่างแพร่หลาย จะช่วยให้บริษัทหรือหน่วยงานรัฐต่างๆ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานหรือเจ้าหน้าที่ได้มากขึ้น ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ช่วยดูแลสุขภาพกายและใจของพนักงานได้อย่างครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้ก็จะช่วยให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น เพราะค่าดูแลรักษาพยาบาลหรือการแก้ไขปัญหาต่างๆ ของพนักงานจะลดลง
อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์เซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์ (SMCP) สื่อของฮ่องกง รายงานว่าการใช้ระบบตรวจวัดคลื่นสมองของประชากรกลุ่มใหญ่ เช่น พนักงานในโรงงานอุตสาหกรรม หรือพนักงานขับรถไฟความเร็วสูง เป็นสิ่งที่น่าวิตกกังวล เพราะจีนยังไม่มีกฎหมายคุ้มครองหรือรับรองความปลอดภัยของผู้ที่ถูกใช้เป็นเครื่องทดสอบระบบดังกล่าว
นอกจากนี้ยังไม่อาจแน่ใจได้ว่าเครื่องตรวจวัดคลื่นสมองจะส่งผลต่อการทำงานของระบบประสาทหรือระบบอื่นๆ ในร่างกายในระยะยาวหรือไม่ เพราะการทดสอบและประเมินผลของบริษัทตี้อี๋ก็ไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะ เพราะถือว่าเป็นข้อมูลทางการค้าของบริษัทเอกชน
ส่วนกรณีที่เครื่องตรวจวัดคลื่นสมองทำงานผิดพลาด อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางอาชีพของผู้ที่ถูกทดสอบหรือติดตั้งระบบดังกล่าว เช่น กรณีพนักงานที่ต้องรับผิดชอบภารกิจสำคัญถูกวินิจฉัยว่าเครียดหรือหลับขณะทำงาน อาจเป็นเหตุให้ถูกโยกย้ายไปรับตำแหน่งอื่น แต่ในความจริงอาจเป็นการวินิจฉัยที่ผิดพลาดของระบบ เพราะจากการทดสอบที่ผ่านมา พบว่าระบบตรวจวัดคลื่นสมองประเมินผลผิดพลาดได้ประมาณร้อยละ 10
ในกรณีที่รัฐบาลต้องการนำระบบตรวจวัดคลื่นสมองไปใช้กับเจ้าหน้าที่รัฐหรือประชาชน อาจเข้าข่ายแทรกแซงหรือสอดแนมพฤติกรรมของพลเรือน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าวิตกกังวลเช่นกัน
Photo by jesse orrico on Unsplash
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: