คนสนใจ 'ซัมซุง-เสียวหมี่' เพิ่ม หลังแบนหัวเว่ย
หลังจากที่หัวเว่ยถูกสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำห้ามบริษัทเอกชนทำธุรกิจด้วย และถูกกูเกิลประกาศตัดสัมพันธ์ ไม่ให้ใช้บริการและอัปเดตแอปพลิเคชันบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ในอนาคต ทำให้คนจำนวนมากลังเลที่จะซื้อสมาร์ตโฟนจากหัวเว่ย เพราะไม่มั่นใจว่าอนาคตของบริษัทจะเป็นอย่างไรต่อไป ซึ่งปรากฏการณ์นี้ทำให้สมาร์ตโฟนแบรนด์อื่นได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น โดยรอยเตอร์สรายงานอ้างอิงข้อมูลจาก PriceSpy เว็บไซต์เทียบราคาสินค้าของอังกฤษ ระบุว่า ซัมซุง แบรนด์สมาร์ตโฟนยอดขายอันดับ 1 และเสียวหมี่ ยอดขายอันดับ 4 ได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมเว็บไซต์เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยมีผู้เข้าไปชมข้อมูลสมาร์ตโฟนรุ่นต่าง ๆ ของซัมซุงเพิ่ม 13 เปอร์เซ็นต์ และของเสียวหมี่เพิ่ม 19 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ ผู้เข้าชมข้อมูลหัวเว่ยลดลงกว่า 50 เปอร์เซ็นต์
ด้าน WeBuyTek เว็บไซต์ซื้อขายสมาร์ตโฟนมือสองของอังกฤษ รายงานว่า มีผู้เสนอขายสมาร์ตโฟนหัวเว่ยเพิ่มขึ้นถึง 540 เปอร์เซ็นต์ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จนทางเว็บไซต์ต้องหยุดรับฝากขายสมาร์ตโฟนหัวเว่ยแล้ว
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศว่าสหรัฐฯ อาจนำเรื่องหัวเว่ยมาเป็นส่วนหนึ่งในการเจรจาข้อตกลงการค้ากับจีน ซึ่งก็หวังว่าจะสามารถตกลงกันได้ เพื่อประโยชน์ของทั้งสองฝ่ายและต่อผู้บริโภค เพราะหากอนาคตของหัวเว่ยยังคงไม่มีความชัดเจนว่าจะดำเนินไปในทิศทางไหน ในปีนี้ ยอดขายของหัวเว่ยอาจจะตกลงมากถึง 24 เปอร์เซ็นต์
นักวิจัยเผย หุ่นกระโดดไซซ์จิ๋วสำหรับกู้ภัย
คนส่วนใหญ่อาจจะคุ้นเคยกับหุ่นยนต์ที่ใช้ขาเดินหรือใช้ล้อในการเคลื่อนไหวไปข้างหน้า แต่นักวิจัยที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ ได้พัฒนาหุ่นยนต์ที่มีชื่อว่า ซาลโต (Salto) ซึ่งเป็นหุ่นยนต์ไซซ์เล็ก สูง 30 เซนติเมตร หนัก 100 กรัม ที่เคลื่อนไหวไปข้างหน้าด้วยการกระโดดคล้ายกับกบหรือจิงโจ้ ซึ่งการเคลื่อนไหวลักษณะนี้ ประกอบกับขนาดตัวที่เล็ก จะช่วยให้ซาลโตสามารถเข้าไปในพื้นที่สูงชันที่มีความขรุขระ ที่หุ่นยนต์ใช้ขาหรือหุ่นยนต์ติดล้อไม่สามารถเข้าไปได้ จึงเหมาะที่จะดัดแปลงไปใช้ในภารกิจกู้ภัยหลากหลายรูปแบบ
ซาลโต ถูกพัฒนามาจนถึงรุ่นที่ 2 แล้ว ซึ่งมันสามารถกระโดดอยู่กับที่ต่อเนื่องได้นานถึง 10 นาที และกระโดดไปข้างหน้าพร้อมกับหลบสิ่งกีดขวางได้ด้วย สามารถเคลื่อนไหวได้ผ่านทั้งระบบอัตโนมัติและผ่านรีโมต ซึ่งผู้ใช้งานสามารถควบคุมความสูง ความไกล และท่ากระโดดของซาลโตได้ โดยขณะนี้ ซาลโตยังคงถูกพัฒนาให้มีขนาดเล็กลง และกระโดดได้ไกลขึ้น ไวขึ้นกว่าเดิม เพื่อนำไปทดลองใช้ในภารกิจกู้ภัย
ฟูจิฟิล์มเปิดตัวกล้องมีเดียมฟอร์แมตใหม่
ฟูจิฟิล์มได้เปิดตัวกล้องรุ่น GFX 100 ซึ่งเป็นกล้องมีเดียมฟอร์แมตรุ่นล่าสุด ความละเอียดสูงถึง 102 ล้านพิกเซล และยังเป็นครั้งแรกที่บริษัทนำ ระบบ phase-detect autofocus แบบครอบคลุมทั้งเซนเซอร์ มาใช้กับกล้องมีเดียมฟอร์แมต ซึ่งรองรับการติดตามวัตถุและโฟกัสดวงตาต่อเนื่องได้มีประสิทธิภาพเร็วกว่า GFX 50R รุ่นก่อนหน้าถึง 210 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ยังสามารถถ่ายวิดีโอความละเอียดระดับ 4K ได้ และมีระบบกันสั่น 5 แกนในตัวกล้องมาให้ด้วย
กล้องมีเดียมฟอร์แมต คือ กล้องที่มีเซนเซอร์รับภาพขนาดใหญ่กว่ากล้องฟูลเฟรม โดยทางฟูจิฟิล์มเลือกใช้เซนเซอร์ขนาด 33 x 44 มิลลิเมตร ทำให้เมื่อใส่เลนส์กล้องเข้าไปแล้ว จะต้องคูณระยะเข้าไปที่ 0.8 ทำให้เลนส์มีระยะการทำงานที่ใกล้กว่าเดิม ซึ่งกล้องมีเดียมฟอร์แมตเป็นกล้องที่แพงและมีผู้ใช้งานเฉพาะกลุ่ม GFX 100 เปิดตัวที่ราคา 9,999 ดอลลาร์ หรือประมาณ 320,000 บาท เฉพาะบอดี้กล้องอย่างเดียว ไม่รวมเลนส์ เริ่มวางจำหน่ายวันที่ 27 มิถุนายน