ในปี 2019 ฝรั่งเศสเตรียมออกมาตรการเข้มงวด เพื่อผลักดันให้คนในประเทศงดใช้พลาสติกที่รีไซเคิลไม่ได้ ก่อนที่จะเข้าสู่การเป็นประเทศปลอดพลาสติกใช้แล้วทิ้งให้ได้ภายในปี 2025
ฝรั่งเศสวางแผนจะบังคับใช้มาตรการเข้มงวดในการลดใช้พลาสติกที่ไม่สามารถนำมารีไซเคิลได้ในปี 2019 โดยเตรียมจะเพิ่มราคาผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช้พลาสติกรีไซเคิลให้แพงขึ้นกว่าเดิม เพื่อผลักดันประเทศให้ปลอดพลาสติกใช้แล้วทิ้งภายในปี 2025
บรูน ปัวค์ซอง (Brune Poirson) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงนิเวศวิทยา ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์เจอร์นัล ดู ดิมองช์ (Journal du Dimanche) ว่ามาตรการใหม่นี้จะทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้พลาสติกรีไซเคิลมีราคาถูกลงเกือบ 10 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนมีทางเลือกว่าจะซื้อของที่ใช้พลาสติกใช้แล้วทิ้งที่แพงกว่า หรือจะหันมารักษ์โลกและประหยัดเงินในกระเป๋าด้วยการใช้ของที่ทำจากพลาสติกที่รีไซเคิลได้
อย่างไรก็ตาม ได้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไม่น้อยออกมาต่อโครงการนี้ โดยบางส่วนสะท้อนความเห็นว่า ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ทุกประเภทจะสามารถใช้พลาสติกรีไซเคิลได้ เช่น ถ้วยใส่โยเกิร์ต นอกจากนั้น คนรักษ์สิ่งแวดล้อมยังมองว่ามาตรการนี้ไม่ได้ช่วยลดการใช้พลาสติกแม้แต่น้อย ซึ่งการรีไซเคิลถือเป็นเรื่องจำเป็นแต่ก็ไม่เพียงพอที่จะแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม
นิตสาร 60 Million Consumers เผยว่า ปัจจุบันฝรั่งเศสรีไซเคิลพลาสติกได้ประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์ และได้ออกกฎแบนการใช้ถุงพลาสติกใช้แล้วทิ้งในซูเปอร์มาร์เก็ตแล้ว เพื่อกระตุ้นให้ผู้คนนำถุงผ้าไปใช้เวลาซื้อของ นอกจากนั้น รัฐบาลฝรั่งเศสยังวางแผนที่จะเพิ่มภาษีในการฝังขยะในหลุมฝังกลบ โดยจะลดภาษีในกระบวนการรีไซเคิล ซึ่งซูเปอร์มาร์เก็ตเจ้าใหญ่อย่างคาร์ฟูลและเลอเคลิก (Leclerc) เตรียมจะเลิกขายหลอดพลาสติกในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ก่อนที่ภาครัฐจะออกกฎห้ามอย่างเป็นทางการในปี 2020