กรุงปารีสของฝรั่งเศส เริ่มแบนรถดีเซลเก่าไม่ให้เข้าไปในเขตเมือง คาดกระทบกับยานพาหนะราว 800,000 คัน
นับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2019 รถยนต์ที่มีอายุมากกว่า 13 ปี หรือผลิตก่อนปี 2006 จะถูกแบนไม่ให้เข้าบริเวณกรุงปารีส เมืองหลวงของฝรั่งเศส เพื่อลดปริมาณมลพิษทางอากาศ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ รถบรรทุก หรือมอเตอร์ไซค์เครื่องยนต์ดีเซลที่มีอายุกว่า 13 ปี จะถูกห้ามไม่ให้เข้ากรุงปารีส วันจันทร์ถึงศุกร์ ตั้งแต่ 8 โมงเช้า ถึง 2 ทุ่ม
คาดว่ามาตรการนี้จะมีผลกระทบกับยานพาหนะราว 800,000 คันในแคว้น อีล-เดอ-ฟรองซ์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของกรุงปารีสและปริมณฑล ผู้ใดฝ่าฝืนจะมีโทษปรับ 68 ยูโร หรือราว 2,365 บาท และค่าปรับสำหรับรถบัสและรถบรรทุกจะสูงถึง 135 ยูโร หรือราว 4,695 บาท ขณะที่เขตชานเมืองของกรุงปารีส และเขตที่จำเป็นต้องพึ่งพารถยนต์ในการเดินทางมากกว่าปารีสนั้น จะไม่มีโทษปรับในช่วง 2 ปีแรกของเริ่มบังคับใช้มาตรการนี้
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่าทางรัฐบาลตกลงที่จะตั้งระยะเวลาทดลองปลอดโทษปรับ 2 ปี หลังมีเสียงทัดทานจากเทศมนตรีบางรายเกรงว่าการแบนนี้จะจุดชนวนกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อกั๊กเหลืองขึ้นมาอีกครั้ง โดยกลุ่มเสื้อกั๊กเหลืองซึ่งปะทุขึ้นในปีที่แล้วเป็นการชุมนุมประท้วงโดยชาวฝรั่งเศสหลายแสนคนที่ไม่พอใจกับแผนขึ้นภาษีเชื้อเพลิง