สายการบินแอร์นิวซีแลนด์ประกาศยกเลิกกฎการแบนพนักงานที่มีรอยสัก เพื่อยุติข้อครหาว่าเลือกปฏิบัติ และเพื่อเป็นการสนับสนุนความหลากหลายทางวัฒนธรรม
สายการบินแอร์นิวซีแลนด์ประกาศยกเลิกกฎการแบนพนักงานที่มีรอยสักบนร่างกายที่ปรากฏอย่างชัดเจน หลังจากถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่องว่ากฎดังกล่าวขัดต่อหลักการด้านสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกทางวัฒนธรรม และเป็นการเลือกปฏิบัติต่อตัวพนักงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับพนักงานที่มีเชื้อสายเมารี ซึ่งมักมีรอยสักบนร่างกายบริเวณที่มองเห็นได้ชัดเจน อย่างไรก็ตาม รอยสักที่ได้รับอนุญาตจะต้องไม่เป็นรอยสักที่ไม่น่ามอง หรือแสดงออกถึงความไม่สุภาพ
ตามปกติแล้ว รอยสักของชนเผ่าเมารีถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญที่สื่อถึงลำดับชั้นเครือญาติและวงศ์ตระกูล ยิ่งไปกว่านั้น การสักของชนเผ่าเมารียังถือเป็นวัฒนธรรมอันศักดิ์สิทธิ์อีกด้วย แต่ที่ผ่านมาสายการบินแอร์นิวซีแลนด์ ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติ สั่งห้ามพนักงานบางตำแหน่ง เช่น พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน มีรอยสักในลักษณะที่ว่า ซึ่งนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิและวัฒนธรรมชี้ว่า นอกจากจะเป็นการเลือกปฏิบัติแล้ว กฎดังกล่าวยังย้อนแย้งและขัดต่อคุณค่าที่สายการบินยึดถือด้วย เนื่องจากแอร์นิวซีแลนด์ใช้ภาษาเมารีในแคมเปญโฆษณา ขณะที่ โลโก้ก็มีสัญลักษณ์ใบเฟิร์น ซึ่งเป็นสัญลักษณ์พื้นถิ่น ที่ชาวเมารีเรียกว่า โครู อีกด้วย
ด้านนายคริสโตเฟอร์ ลูซอน CEO ของสายการบินแถลงผ่านทางอีเมลว่า เขาใช้เวลากว่า 5 เดือนที่ผ่านมา ในการสำรวจและพูดคุยกับคนในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าพวกเขาต่างมีทัศนคติที่ดีขึ้นต่อผู้ที่มีรอยสักในตำแหน่งที่เห็นได้ชัดอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อรอยสักนั้นมีความหมายสำคัญทางวัฒนธรรม ซึ่งตัวเขาเองมีนโยบายที่ต้องการสนับสนุนความหลากหลายทางสังคมและวัฒนธรรม โดยการยกเลิกแบนรอยสักของพนักงานจะเริ่มมีผลบังคับใช้จริงในวันที่ 1 กันยายนที่จะถึงนี้