ถือเป็นการค้นพบครั้งสำคัญในวงการดาราศาสตร์ เมื่อนักดาราศาสตร์ได้ตรวจจับสัญญาณของดาวฤกษ์ดวงแรกในจักรวาล ที่เกิดขึ้นหลังปรากฏการณ์บิ๊กแบงได้สำเร็จ
หลังจากค้นหามากว่าทศวรรษ ในที่สุดนักดาราศาสตร์ได้ค้นพบสัญญาณของดาวฤกษ์ดวงแรกในจักรวาลได้สำเร็จ โดยดาวฤกษ์ดวงนี้ถือกำเนิดขึ้นหลังปรากฏการณ์บิ๊กแบง ซึ่งเป็นการระเบิดครั้งใหญ่ในอวกาศที่เชื่อว่าเป็นจุดกำเนิดของเอกภพ โดยนักดาราศาสตร์บางส่วนมองว่า การค้นพบครั้งนี้ยิ่งใหญ่ไม่แพ้การตรวจจับคลื่นความโน้มถ่วงในปี 2015 ที่ได้รางวัลโนเบลเลยทีเดียว
แม้ว่าการค้นพบครั้งนี้ยังต้องอาศัยการทดลองเพิ่มเติมเพื่อรับรองผล แต่หัวหน้าทีมค้นคว้า จัดด์ โบว์แมน (Judd Bowman) จากมหาวิทยาลัยแอริโซนาสเตต ในอเมริกา เชื่อว่าการค้นพบครั้งนี้จะช่วยเปิดโลกให้มีการศึกษาเอกภพในยุคแรกกำเนิดมากขึ้น และยังได้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสสารมืด ที่มองไม่เห็นในจักรวาลแต่ส่งอิทธิพลต่อสสารอื่นในกาแล็กซี่
โดยปกติแล้วจะไม่สามารถมองเห็นดาวฤกษ์ที่มีอายุเก่าแก่ขนาดนี้ได้ผ่านกล้องโทรทรรศน์ แต่ครั้งนี้ทีมนักดาราศาสตร์ได้ค้นพบดาวฤกษ์นี้จากคลื่นเสียงในจักรวาล โดยดาวฤกษ์ดวงแรกที่ค้นพบนี้ มีอายุ 13.6 พันล้านปี เกิดขึ้นหลังปรากฏการณ์บิ๊กแบงได้ 180 ล้านปี ได้รับการค้นพบโดยเครื่องตรวจสเปกตรัมและคลื่นวิทยุขนาดเล็กที่อยู่ในทะเลทรายของออสเตรเลีย โดยคลื่นเสียงที่ได้รับนั้นยังทำให้ทราบว่า เอกภพในยุคแรกเริ่มนั้นมีความเย็นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ลบ 270 องศาเซลเซียส ถึงสองเท่า
นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า หลังเกิดบิ๊กแบงได้ราว 400,000 ปี เอกภพนั้นมืดมิดและเต็มไปด้วยก๊าซไฮโดรเจน หลังจากนั้นแรงโน้มถ่วงได้ดึงก๊าซมารวมกันเป็นดาวต่างๆ โดยระบบสุริยะจักรวาลที่มนุษย์อาศัยอยู่ในปัจจุบัน ถือกำเนิดขึ้นราวเก้าพันล้านปีหลังจากนั้น