ผู้บริหารสตาร์บัคส์ออกมายืนยันในแนวทางเดียวกับงานวิจัยที่ระบุว่า ผลผลิตกาแฟโลกกำลังลดลงอย่างน่าตกใจ โดยทางบริษัทกำลังพัฒนากาแฟสายพันธุ์ที่ทนอากาศร้อนได้เป็นพิเศษ เพื่อรับมือกับปัญหานี้แล้ว
ฮาเวิร์ด ชูลต์ซ ประธานบริหารกิตติคุณ (Chairman Emeritus) ของบริษัทสตาร์บัคส์ ออกมาแสดงความกังวลถึงปัญหาพื้นที่การเพาะปลูกกาแฟลดลงอย่างน่าตกใจ ที่ส่งผลให้ผลผลิตเมล็ดกาแฟลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยทั้งหมดเป็นผลมาจากภาวะโลกร้อน และอุณหภูมิในพื้นที่เพาะปลูกเพิ่มสูงขึ้นจนกาแฟไม่สามารถเติบโตได้
โดยสตาร์บัคส์ ซึ่งเป็นผู้ค้ากาแฟรายใหญ่อันดับที่ 4 ของโลก กำลังพัฒนาต้นกาแฟหลากหลายชนิด ให้ทนต่อความร้อน และทยอยแจกจ่ายให้กับเกษตรกร พร้อมตั้งเป้าจะปลูกกาแฟสายพันธุ์ใหม่ให้ได้ 100 ล้านต้น ภายในปี 2025
นักวิทยาศาสตร์ประมาณการว่าภายในปี 2050 พื้นที่เพาะปลูกกาแฟในลาตินอเมริกาจะลดลงถึง 88 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ ที่ราบสูงในแทนซาเนียก็มีอุณหภูมิสูงเกินกว่าจะปลูกกาแฟที่มีคุณภาพดีได้แล้ว แม้ว่าในปีนี้จะมีการคาดการณ์ว่าบราซิลจะสามารถเพิ่มผลผลิตจากปีที่แล้วได้ราว 6 ล้านถุงก็ตาม
กาแฟเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีการค้าขายแลกเปลี่ยนเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากน้ำมัน โดยปริมาณการบริโภคกาแฟในประเทศใหญ่และมีประชากรมากอย่างจีน เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ขณะที่ ผู้ใหญ่ในแคนาดาโดยเฉลี่ยแล้วดื่มกาแฟมากกว่าน้ำเปล่าในแต่ละวัน สะท้อนให้เห็นความต้องการกาแฟในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยที่ผลผลิตทางการเกษตรยังชะลอตัว