สมาร์ตโฟนอาจเป็นสาเหตุกระดูกผิดรูป
สมาร์ตโฟนกลายมาเป็นอุปกรณ์ที่เราขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะกับคนรุ่นใหม่ที่ต้องมีสมาร์ตโฟนติดตัว ใช้นิ้วพิมพ์ข้อความ และสายตาจ้องหน้าจอตลอดเวลา ซึ่งทำให้นักวิทยาศาสตร์กังวลว่าการทำพฤติกรรมเหล่านี้ ติดต่อกันหลายปี ตั้งแต่อายุยังน้อย อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้คนรุ่นใหม่มีกระดูกที่ผิดรูปมากขึ้น โดย ดอกเตอร์ เดวิด ชาฮาร์ จากมหาวิทยาลัย The Sunshine Coast ในรัฐควีนส์แลนด์ ของออสเตรเลีย พบว่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา กะโหลกด้านหลังของคนรุ่นใหม่ อายุระหว่าง 18-30 ปี จำนวนหนึ่ง มีลักษณะนูนขึ้นมาประมาณ 10 มิลลิเมตร ซึ่งคนทั่วไปควรจะนูนออกมาไม่เกิน 5 มิลลิเมตร
แม้จะยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าการใช้สมาร์ตโฟนเป็นสาเหตุที่ทำให้กะโหลกด้านหลังนูนออกมามากกว่าปกติ แต่ดอกเตอร์ชาฮาร์อธิบายว่าศีรษะมนุษย์มีน้ำหนักประมาณ 4.5 กิโลกรัม ซึ่งการก้มศีรษะเพื่อจ้องหน้าจอสมาร์ตโฟนตลอดเวลา สร้างภาระให้กับกล้ามเนื้อและกระดูกคอที่เชื่อมอยู่กับกะโหลก เมื่อร่างกายส่วนนี้ รับน้ำหนักที่เกินความจำเป็นติดต่อกันเป็นเวลานาน จึงมีความเป็นไปได้ว่าร่างกายมนุษย์จึงปรับตัวด้วยการจัดวางกระดูกใหม่ เพื่อถ่ายน้ำหนักลงไปยังพื้นที่อื่นเพื่อให้เกิดสมดุล
อย่างไรก็ตาม ไม่พบว่ากะโหลกด้านหลังที่นูนออกมาประมาณ 10 มิลลิเมตร จะมีผลเสียด้านใดต่อสุขภาพ แต่หากคนรุ่นใหม่ยังคงมีพฤติกรรมการใช้สมาร์ตโฟนแบบเดิม ๆ อาจจะทำให้กระดูกผิดรูปร่างมากกว่าเดิม และอาจส่งผลให้เกิดอาการปวดเมื่อยบริเวณต้นคอในบางกรณี ซึ่งหากใครมีอาการดังกล่าว ก็จำเป็นต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้สมาร์ตโฟนให้น้อยลงกว่าเดิม
ญี่ปุ่นห้ามคนเมาใช้โดรน
โดรนกลายเป็นแกดเจ็ตที่คนทั่วไปเข้าถึงได้ง่าย แต่การควบคุมโดรนก็คล้ายคลึงกับการขับขี่รถยนต์ นั่นคือผู้ควบคุมต้องผ่านการฝึกฝน มีประสบการณ์ และมีความรับผิดชอบ เพราะหากเกิดอุบัติเหตุอาจจะสร้างความเสียหายให้กับทรัพย์สินหรือทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ รัฐสภาญี่ปุ่นจึงได้ออกกฎหมายเพิ่มเติมเพื่อความปลอดภัยในการใช้โดรน ด้วยการห้ามคนที่มีอาการมึนเมาใช้โดรน ซึ่งกระทรวงคมนาคมของญี่ปุ่นมองว่าผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์แล้วใช้โดรน มีอันตรายไม่ต่างจากการดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับรถยนต์
ในกฎหมายระบุว่าหากผู้ใดถูกจับได้ว่าดื่มแอลกอฮอล์ แล้วควบคุมโดรนที่มีน้ำหนักมากกว่า 200 กรัม ขึ้นบิน มีโทษปรับเป็นเงินสูงสุดถึง 300,000 เยน หรือประมาณ 87,000 บาท และยังมีโทษจำคุกสูงสุด 1 ปีด้วย
ญี่ปุ่นออกกฎหมายควบคุมการใช้โดรนอย่างเข้มงวดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งมีทั้งกฎห้ามบินโดรนเกินความสูง 150 เมตร, ห้ามบินโดนใกล้สนามบินหรือแหล่งชุมชน, ห้ามบินโดรนในเวลากลางคืน และผู้ควบคุมจะต้องอยู่ในระยะที่มองเห็นโดรนของตัวเองตลอดเวลาที่นำโดรนขึ้นบิน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายและล่วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของผู้อื่น
นิคอนจะเปิดตัวกล้องมิร์เรอร์เลสรุ่นกลาง
หลังจากที่นิคอนได้เปิดตัวกล้องมิร์เรอร์เลสระดับมืออาชีพ รุ่น Z7 และ Z6 ไปเมื่อช่วงกลางปีที่แล้ว และได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค สื่อของญี่ปุ่นรายงานว่าในปีนี้ นิคอนเตรียมที่จะเปิดตัวกล้องมิร์เรอร์เลสรุ่นใหม่ ซึ่งจะเป็นกล้องระดับกลาง และมีราคาที่ถูกลงมา เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น โดยกล้องรุ่นใหม่นี้จะมีราคาบอดีไม่เกิน 100,000 เยน หรือไม่เกิน 29,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ถูกกว่ารุ่น Z6 ถึง 1 เท่าตัว และถูกกว่ารุ่น Z7 ถึง 3 เท่า
กล้องของนิคอนมีภาพลักษณ์เป็นกล้องสำหรับมืออาชีพหรือผู้ที่จริงจังเรื่องการถ่ายรูป ทำให้ผู้บริโภคทั่วไปมองข้าม โดยผลสำรวจของ BCN บริษัทสำรวจการค้าปลีกในญี่ปุ่นในช่วงเดือนมีนาคมและเดือนเมษายนที่ผ่านมา พบว่าตลาดกล้องประเภทฟูลเฟรมมิร์เรอร์เลส นิคอน มีส่วนแบ่งการตลาดเพียง 6 เปอร์เซ็นต์ ตามหลังโซนี่ที่มีส่วนแบ่งการตลาด 44 เปอร์เซ็นต์ และ แคนนอน ที่มีส่วนแบ่งการตลาด 26 เปอร์เซ็นต์ นิคอนจึงมีแผนที่จะขยายตลาดให้ครอบคลุมกลุ่มผู้ใช้งานให้ทั่วถึง ด้วยการออกกล้องรุ่นใหม่ที่มีราคาถูกลงเพื่อดึงดูดคนที่เริ่มถ่ายรูปให้หันมาใช้กล้องของนิคอนมากขึ้น