มิตซูบิชิพัฒนาเอไอแยกภาษาได้ 10 ภาษา
ระบบเอไอยังคงถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องให้มีความฉลาดมากขึ้น เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ด้านต่างๆ ล่าสุดนักวิจัยจากมิตซูบิชิ อิเล็คทริค ได้พัฒนาเทคโนโลยีเอไอเพื่อแยกแยะภาษาหลายภาษาในเวลาเดียวกัน โดยจะแยกแยะจากลักษณะของการใช้เสียงและคำศัพท์ของผู้ใช้แต่ละคน โดยมิตซูบิชิเปิดเผยว่าระบบเอไอนี้สามารถแยกแยะภาษาได้มากถึง 10 ภาษาในเวลาเดียวกัน และผลจากการทดสอบ พบว่าระบบเอไอนี้มีความแม่นยำในการแยกแยะภาษามากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์
นับว่าเป็นครั้งแรกที่เอไอสามารถแยกแยะภาษาได้ด้วยตัวเอง โดยที่ไม่ต้องมีการตั้งค่าล่วงหน้า แม้ว่าตอนนี้ระบบเอไอนี้ ยังคงอยู่ในช่วงพัฒนาและแก้ไขข้อบกพร่อง แต่เมื่อใช้งานได้จริงแล้ว จะเป็นประโยชน์ต่อการท่องเที่ยวและการใช้งานบริการด้านอื่น ๆ อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการเผยแพร่ข้อมูลหรือการค้นหาข้อมูลที่สำคัญได้หลายภาษาพร้อม ๆ กัน นอกจากนี้ยังนำไปใช้ได้กับอุปกรณ์นำทางในรถยนต์ ซึ่งสามารถบอกทางได้ตามภาษาของผู้ขับขี่ โดยผู้ขับขี่ไม่ต้องตั้งค่าภาษาของตนเองล่วงหน้า
'เทสลา' เอาใจคนเลี้ยงสุนัขด้วย 'Dog Mode'
เทสลา บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากสหรัฐฯ เอาใจคนเลี้ยงสุนัข ด้วยการเปิดตัว Dog Mode ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ใหม่ สำหรับผู้ขับรถที่เลี้ยงสุนัขและขับรถพาสุนัขไปข้างนอกด้วยบ่อย ๆ และอาจต้องทิ้งสุนัขไว้ภายในรถเป็นเวลานาน เวลาที่เจ้าของลงไปทำธุระข้างนอก ซึ่ง Dog Mode จะทำหน้าที่ควบคุมสภาพอากาศภายในรถในขณะที่จอดรถทิ้งไว้ และมีหน้าจอแสดงอุณหภูมิภายในรถเพื่อให้คนที่เดินผ่านไปมาเห็นว่าสุนัขที่อยู่ในรถยังคงปลอดภัยดี และหากแบตเตอรีรถยนต์ลดลงต่ำกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ เจ้าของรถจะได้รับการแจ้งเตือนผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน
อย่างไรก็ตาม เทสลา ได้เตือนผู้ใช้งาน Dog Mode ด้วยว่า ควรตรวจสอบกฎหมายด้วยว่าสามารถทิ้งสุนัขไว้ในรถได้หรือไม่ เนื่องจากแต่ละรัฐก็มีกฎหมายการเลี้ยงสัตว์ที่แตกต่างกัน
จุดเริ่มต้นของการพัฒนา Dog Mode เกิดจากลูกค้าเทสลาคนหนึ่ง ได้ทวีตข้อความหา อีลอน มัสก์ เมื่อปลายปีที่แล้ว เกี่ยวกับปัญหาที่ผู้ขับขี่รถยนต์ที่มีสุนัขต้องพบเจอ เทสลาจึงได้พัฒนา Dog Mode เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่เลี้ยงสุนัข ซึ่ง Dog Mode นี้ สามารถใช้ได้กับรถยนต์ Model 3, Model S และ Model X ที่ผลิตหลังเดือนสิงหาคม 2017 โดยจะใช้ได้แค่ในสหรัฐฯ เท่านั้น
เปิดตัว Fujifilm X-T30 กล้องตัวเล็ก สเปกระดับโปร
Fujifilm เปิดตัวกล้อง X-T30 กล้องมิร์เรอร์เลส เซนเซอร์ APS-C ระดับกลาง ซึ่งยกสเปกและฟีเจอร์มาจากกล้องระดับโปรอย่าง X-T3 มาอยู่ในบอดี้ขนาดเล็ก ในราคาที่จับต้องได้มากขึ้น โดย Fujifilm X-T30 ใช้เซนเซอร์ที่ความละเอียดระดับ 26.1 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอ 4K ได้ที่ 40 เฟรมต่อวินาที และปรับปรุงระบบโฟกัสใหม่ให้มีประสิทธิภาพที่ดีกว่า X-T20 โดยมีจุดโฟกัสอัตโนมัติครอบคลุมทั้งเฟรม 100 เปอร์เซ็นต์ และระบบออโตโฟกัสสามารถติดตามวัตถุได้แม่นยำขึ้นด้วย
ส่วนการแสดงผล Fujiflm ใช้ช่องมองภาพ EVF แบบ OLED ความละเอียด 2.36 ล้านจุด จอแสดงผลแบบ LCD ระบบทัชสกรีนขนาด 3 นิ้ว ความละเอียด 1.04 ล้านจุด ปรับมุมมองได้สองทิศทาง มี Wi-Fi และ Bluetooth เพื่อเชื่อมการเชื่อมต่อไร้สาย ส่วนการออกแบบ Fujifilm X-T30 ยังคงมีสไตล์เรโทร และปุ่มควบคุมต่าง ๆ ยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิมเหมือนกับรุ่นก่อนหน้า
ราคาขายของ Fujifilm X-T30 เฉพาะบอดี้อยู่ที่ 899 ดอลลาร์ หรือราว 28,000 บาท, ส่วนบอดี้พร้อมเลนส์ระยะ 15-45mm อยู่ที่ 999 ดอลลาร์ หรือราว 31,000 บาท และจะเริ่มขายในเดือนมีนาคมนี้