รายการ Talking Thailand ประจำวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2563

นักวิเคราะห์ Talking Thailand ชี้ ปัจจัย 9 ส.ส. ที่อนาคตใหม่ปั้นให้ลงสนาม ตัดสินใจย้ายซบ “ภูมิใจไทย” ยมแลกอุดมการณ์ เพราะข้อจำกัดฝ่ายค้าน แต่อยู่กับรัฐบาลมีเงิน ได้สร้างผลงานมากกว่า 

ส่วน “พลังประชารัฐ” ปฏิเสธเสียงขรม ไม่มี ส.ส.กทม.ใช้กลยุทธ์พลังดูด บอกใครจะยอมแลกจ่ายค่าหัวให้ 23 ล้าน “อ.หญิง” แนะเอาคลิปไปแจ้งความ อย่าให้เงินทำลายระบบการเมืองเหมือนอดีต

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ปฏิเสธกรณีคลิปเสียงซื้อ ส.ส.คนละ 23 ล้านบาท ที่ถูกระบุเสียงคล้าย ส.ส.กทม.ของพรรค ระบุว่าขอไปตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน เพราะเรื่องลักษณะนี้มีมากในช่วง 2-3 วันหลังยุบอนาคตใหม่ ยืนยันว่าพรรคไม่มีนโยบายจะดูแลตามที่มีการต่อรองในคลิป และว่าส.ส.ที่จะมาอยู่พรรค สิ่งแรกที่ต้องมี คือ ใจ, การทำงาน และความมั่นคงกับพรรค

เมื่อถามว่าส่งทีมงานไปติดต่อหรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ส่วนตัวไม่มี แต่คนอื่นไม่ทราบ และย้ำว่าพรรคก็ไม่มีมาก ถึงขนาดจ่ายให้หัวละ 23 ล้านบาท แต่หาก ส.ส.อนาคตใหม่ย้ายก็จริง ก็ยังตอบไม่ได้ว่าจะมีตำแหน่งหรืองานให้ทำ ขณะนี้รัฐบาลมีเสียงมั่นคง 263 เสียง เกินกึ่งหนึ่งในสภาที่ 244 เสียง ราว ๆ 20 เสียง และเห็นว่าเรื่องนี้อาจเป็นการตีความเกินไป

เรื่องเสียงเกินเสียงขาด ไม่ใช่ประเด็นที่น่าเป็นห่วง เพราะการร่วมรัฐบาล หรือปรับครม.ทุกอย่างอยู่ที่การตัดสินใจนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว ส่วนตัวคิดว่าไม่น่า จะเป็นปัจจัยหลักไปสู่การปรับครม. และย้ำพรรคร่วมรัฐบาลอยู่ด้วยการตกลงพูดคุย ไม่ได้ด้วยการนับตัวเลข ส.ส. และพรรคร่วมรัฐบาลมีความพยายามให้การขับเคลื่อนรัฐบาลเดินหน้าไปได้ จึงไม่อยากให้นำเรื่องพวกนี้มาตีความ เพราะทำให้บ้านเมืองถอยหลังหลับไปสู่การใช้ตัวเลข ส.ส.

นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า เครือข่าย ส.ส.กทม.ของพรรค ไม่ได้ไปดึงใคร จากที่ไหน อย่างไรยืนยันได้เพราะมีเรื่องอื่นที่ต้องห่วงใยมากมาย ฉะนั้น ส่วนที่จะไปพิสูจน์ว่าเป็นใคร เป็นหน้าที่ของคนที่ออกมาเปิดเผย ส่วนจะทำเรื่องถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือกกต. เชื่อว่า ไม่มีปัญหา เพราะไม่สามารถบอกได้ว่าเสียงนั้นเป็นเสียงของใคร แต่ยอมรับว่า พรรคกำลังตรวจสอบในเรื่องนี้ว่าเป็นคนของพรรคหรือไม่ และเตรียมเรียกผู้ที่มีเสียง ส.ส.มาสอบว่ากระบวนการเป็นอย่างไรและใช่หรือไม่

ส่วนการเสนอเงิน 23 ล้าน นั้นเห็นว่า ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะเป็นตัวเลขที่ไม่มีเหตุผลรองรับ ขอรอให้หลักฐานออกมา รอให้มีการพิสูจน์ก่อน เชื่อว่าไม่มีปัญหาอะไร

เมื่อถามว่ามีการวิพากษ์วิจารณ์เป็นการกระหายตำแหน่งรัฐมนตรีช่วย / นายณัฏฐพล กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาล ดูเรื่องเสียงในการโหวต ไม่ได้กังวลตรงนั้น แม้เสียงปริ่มน้ำ แต่ยังมั่นคง ส่วนการเตรียมตัวการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็เห็นความร่วมมือของพรรคร่วมรัฐบาล ไม่มีความกังวล

สำหรับการบริหารจัดการภายใน ครม. หากถามนายกรัฐมนตรี และ ครม.ทุกคนเรามีความมั่นคงในการทำงาน ไม่มีคนไหนกังวลว่าจะถูกปรับเปลี่ยน ฉะนั้นอาจเป็นความคิดของคนทั่วไปว่า เมื่อมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะต้องปรับครม. ถือเป็นเรื่องการเมืองธรรมดา

ส่วนข้อเสนอการให้ตำแหน่งรัฐมนตรี นับจาก ส.ส.ในมือหรือไม่นั้น เห็นว่า ในอดีตอาจจะใช่ แต่การทำงานของนายกฯ ไม่ได้คำนึงถึงตรงนั้น สัดส่วน ส.ส.ของพรรค ไม่ได้มีผลต่อการตัดสินใจของนายกฯ ซึ่งสามารถสอบถามนายกฯ ได้ เท่าที่ดูจากการจัดคณะรัฐมนตรีที่ผ่านมาไม่ได้เกี่ยวกับสัดส่วนโควต้าที่ต้องเท่ากัน ดูความเหมาะสมและความมีเสถียรภาพของรัฐบาล ส่วนกลุ่มไหนที่จะคิดว่ามี ส.ส.ในมือและสามารถต่อรองได้ / คิดว่านายกไม่ต่อรองด้วยแน่นอน

ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐในเวลานี้ มีจำนวน ส.ส.มากพอสมควร โดยหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคคงคิดว่า ยังไม่มีความจำเป็นหาเสียงเพิ่ม ส่วนจะไปฝากกับพรรคร่วมรัฐบาลอื่นหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ทราบ ว่าไปฝากไว้กับใครบ้าง พร้อมปฏิเสธว่าไม่ได้ฟัง เพราะเรื่องส่วนตัวก็หนักพออยู่แล้ว

ส่วนที่มีการนำเสียงไปเทียบแล้วพุ่งเป้ามาที่พรรคพลังประชารัฐ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่มั่นใจ พร้อมย้อนถามว่ามีเสียงคล้ายตนหรือไม่ และไม่ทราบว่าเสียงนั้นเสียงคล้ายกับ ส.ส.กทม. ของพรรค ซึ่งถ้าดูด้วยเหตุด้วยผล ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะเงิน 23 ล้านบาท กับอีก 3 ปีที่จะถึง และในสถานการณ์เช่นนี้ รัฐบาลมีเสียงที่เข้มแข็งอยู่แล้วเมื่อถามย้ำว่า เสียงที่ได้จะนำไปเสริมความเข้มแข็งให้แต่ละพรรคเพื่อเพิ่มการต่อรอง / ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ใช่ ท้ายที่สุดแล้วอยู่ที่นายกฯ เป็นผู้ตัดสินใจ

นายวีระ สมความคิด เลขาฯเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า คุณชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ต้องสั่งตรวจสอบโดยด่วน เพราะการติดต่อซื้อตัว ส.ส.ครั้งนี้ มันบังอาจมาก มันกล้าทำกันในรัฐสภาอันทรงเกลียด

คุณเบญจา เปิดแถลงข่าวชัดเจนขนาดนี้ ต้องเล่นต่อจนจบ ต้องเปิดเผยให้สาธารณะรับรู้ว่า ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลที่ติดต่อเพื่อซื้อตัวคุณเบญจากับพวก คือผู้ใด พรรคการเมืองใดผู้ใดรู้ก็เปิดชื่อมาเลย

นี่ไง การปฎิรูปการเมืองของเผด็จการทหาร คสช. ระยำยิ่งกว่ายุคนักการเมืองที่พวกคุณ ไปทำรัฐประหารยึดอำนาจมาเสียอีก พวกที่ไปเป่านกหวีดเรียกทหารระยำเหล่านี้มา จะรับผิดชอบอย่างไร