“อ.วิโรจน์” ถึงกับบอกว่า “ถ่อย” เมื่อฟังข่าว “สิระ” พูดสองแง่สองง่ามใส่ ส.ส. เอลวิส “ศรัณย์วุฒิ” อภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ โดยเปรียบ “ปืนใครเล็ก-ปืนใครใหญ่”

ขณะที่ “คำผกา” ตอกปม “ธรรมนัส” ที่รับเองว่าถูกจองจำที่ออสเตรเลียเพราะขนยาเสพติด แต่ยังยืนโดดเด่นในสภา แต่ถ้าจะใช้มาตรฐานเดียวกับ “ธรรมนัส” ก็เลิกเรียนคนฝั่งตรงข้าม นักโทษหนีคดี, นักโทษชาย, นักโทษหญิง เสียที

โดยนายนิคม บุญวิเศษ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังปวงชนไทย กล่าวอภิปรายถึง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ มีคุณสมบัติขัดต่อการเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตามรัฐธรรมนูญ ทั้งกรณีที่ถูกถอดยศ จาก ร.ท. เพราะหนีราชการ แจ้งรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ต่อ ป.ป.ช.เป็นเท็จ เรื่องรายได้จากการขายสลากกินแบ่งรัฐบาล เดือนละ 3 ล้านบาท ทั้งที่ไม่มีโควต้าสลากกินแบ่งรัฐบาล แต่กลับได้รับข้อมูลมาว่า ร.อ.ธรรมนัส มีอำนาจดูแลการจัดสรรการขายสลากฯ ถึง 80 ล้านฉบับ เชื่อว่าหากนำไปขายจะทำให้กำไรกว่า 300 ล้านบาท

ด้าน ร.อ.ธรรมนัส ยอมรับ ก่อนเป็นรัฐมนตรี เคยเป็น 1 ใน 5 เสือกองสลากฯ แต่ไม่เคยมีพฤติกรรมเอาเปรียบใคร และทุกวันนี้ ไม่มีสัมปทานหรือมีคู่สัญญากับสำนักงานสลากฯแม้แต่เล่มเดียว แต่ที่ได้สำแดงทรัพย์สิน รายได้ว่ามาจากการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเดือนละ 3 ล้านบาท คงเข้าใจผิดว่าตนยังเป็นคู่สัญญากับสำนักงานสลาก ขอเรียนว่ารายได้จากการทำธุรกิจในส่วนของสลากกินแบ่งเดือนละ 3 ล้านคือ ที่เช่าแผงค้าสลากที่ข้างสำนักงานสลากฯ ซึ่งเป็นการเช่าช่วงจากเจ้าของตลาด มีแผงค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลเกือบ 10 แผง เพราะจำเป็นต้องหล่อเลี้ยงลูกค้าที่ทำธุรกิจ เรื่องสลากกันมาเกือบ 10 ปี

การทำอาชีพนี้ผมถือว่าเป็นอาชีพสุจริต แม้เราจะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีหรือ ส.ส.ก็ตาม การเป็นรัฐมนตรีถือว่าสาหัสพออยู่แล้ว แต่สถานะการเป็นส.สโดยเฉพาะผู้แทนตลาดล่าง เงินเดือนแต่ละเดือนจากการได้รับจากรัฐบาลประมาณ 120,000 บาท ถือว่าไม่เพียงพอต่อการทำงานในพื้นที่ 

นอกจากนี้ยังมี นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคอนาคตใหม่ อภิปรายไม่ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส กรณีนางอริสรา พรหมเผ่า ภรรยา ร.อ.ธรรมนัส ถือหุ้น 85% ในบริษัทตลาดคลองเตย 2551 จำกัด หรือชื่อเดิมคือ บริษัทลีเกิ้ล โปรเฟสชั่นแนล จำกัด ซึ่งเป็นคู่สัญญากับรัฐวิสาหกิจ คือ การท่าเรือแห่งประเทศไทย

ภายใต้กำกับของกระทรวงคมนาคม ทั้งที่ร.อ.ธรรมนัส เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรี โดยพบว่านางอริสา ได้โอนหุ้นให้กับนอมินี คือ น.ส.วิภาดา เมืองโคตร เจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของบริษัทคลองเตยฯ ทั้ง 85% คือ 5.1 แสนหุ้น เมื่อเดือนกรกฎาคม 2561 เมื่อลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า ที่อยู่ของ น.ส.วิภาดา ที่ จ.นครราชสีมา อยู่ในตรอก ขณะที่บ้านของสามีของ น.ส.วิภาดร ยังมีขนาดเล็ก ไม่เหมาะสมต่อการเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่มูลค่ามหาศาล

ร.อ.ธรรมนัส ชี้แจงเรื่องนี้ว่า เป็นเพียงผู้เช่าที่ดิน เพื่อสร้างตลาดคลองเตย ยืนยันหากินสุจริต การมี 16 บริษัทที่ขายกิจการ ทำให้มีรายได้ แต่มีเพียงบางบริษัทที่ยังทำเพื่อเลี้ยงครอบครัว ส่วน น.ส.วิภาดา คือผู้ก่อตั้งบริษัทลีเกิ้ลฯ ร่วมกันตั้งแต่ปี 2545 และเป็นถือหุ้น ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา กับข้อมูลที่บอกว่าน.ส.วิภาดา อยู่ จ.นครราชสีมา ข้อเท็จจริงคือ น.ส.วิภาดา เมืองโคตร มีหลายคน และคนที่ถือหุ้นกับผมพร้อมคู่สมรส อยู่บ้านเลขที่ 69 หมู่ 4 อ.บ้านใหญ่ จ.มุกดาหาร

นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคอนาคตใหม่ อภิปรายไม่ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส เนื่องจากเคยถูกศาลรัฐประเทศออสเตรเลียพิพากษาให้จำคุก 6 ปี และ 4 ปี พร้อมกับเนรเทศกลับประเทศฐานความผิดฐานนำเข้าและค้ายาเสพติด โดยมี เอกสารใหม่ เป็นคำพิพากษาจากศาลแขวงรัฐนิวเซาท์เวลส์ ปี 2538 มีรายละเอียดว่า

ร.อ.ธรรมนัส ยอมรับว่าได้ขนยาเสพติดเข้าประเทศออสเตรเลียจริง โดยไม่มีพรีบาร์เกน ซึ่งขัดแย้งกับ ร.อ.ธรรมนัสชี้แจงต่อสภาฯ และชี้แจงกับคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช.

ร.อ.ธรรมนัส ลุกขึ้นชี้แจง ระบุว่า ก่อนฟังผู้อภิปราย ผมตื่นเต้นว่ามีอะไรเด็ด แต่พอฟังแล้วไม่ตื่นเต้น / อย่างไรก็ตามที่ระบุมีคำแปลว่า ผมรับสารภาพว่าเจตนานำเข้ายาเสพติด นั้นไม่จริง เพราะคำแปลที่มีผู้รับรองซึ่งน่าเชื่อถือได้ ไม่มีตรงไหนที่ระบุว่า ผมรับสารภาพนำเข้า ส่งออก จำหน่ายและผลิตเฮโรอีน ที่มีโทษจำคุกตลอดชีวิตเท่านั้น อย่างไรก็ตามในคำพิพากษาระบุว่า ความผิดของผม คือฐานรู้ว่ามีผู้กระทำความผิดแต่ปกปิด แต่ไม่แจ้งเจ้าหน้าที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ให้ทราบ ยืนยันไม่เคยเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด แต่ยอมรับว่า เรื่องนี้เป็นจุดบอดเป็นตราบาปของตน แต่กรณีนี้ผู้อภิปรายกำลังพูดว่า เราเสียเอกราชเป็นเมืองขึ้นให้กับออสเตรเลีย เพราะเราไปยอมรับอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดนออสเตรเลีย และการแอบอ้างคำสั่งศาลของประเทศอื่นมามีผลบังคับใช้กับรัฐบาลไทยไม่ได้

นอกจากนี้ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ข้อมูลของฝ่านค้านยังอ่อน ถ้าสวนกลับคงมีหนาว หลังจากนี้ จะมีการพิจารณาปรับตำแหน่งคณะรัฐมนตรี และจะหลุดจากเก้าอี้หรือไม่นั้น เป็นการตัดสินใจของผู้ใหญ่ใน ครม. ไม่ใช่หน้าที่ของ ส.ส.คนใดคนหนึ่งในสภาฯ และส่วนตัวก็ทำหน้าที่ดีแล้ว และหลังจากนี้จะนำคำพิพากษาที่ถูกกล่าวหามาชี้แจงอีกครั้ง 

นอกจากนี้ ประเด็นที่ ส.ส. อดีตพรรคอนาคตใหม่ กล่าวหา เบื้องต้นจะมีการร้องทุกกล่าวโทษ ที่ สภ.พะเยา รวมถึงคนที่พาดพิง และแสดงความคิดเห็นในสื่อต่างๆด้วย เพราะตนได้ชี้แจงไปหมดแล้ว