รายการ Talking Thailand ประจำวันที่ 15 สิงหาคม 2563
“อ.วิโรจน์” ถาม “ประยุทธ์” จะใช้เวลาอีกนานแค่ไหน...84,000 เซลล์ถึงจะร่วมถกม็อบ แถมยังพูดผ่าน “ทีมโฆษก” ตลอด สะท้อนไม่จริงใจ ยิ่งฟังคำแถลงยิ่งชัดปัดสวะพ้นตัวเสมอ ว่าไม่ได้สั่งจับม็อบ
“อ.พิชญ์” ชี้ยิ่งอยู่สูง บอกไม่ได้สั่ง ก็ชัดนะ ว่าสั่ง! แถมแนะให้รีบตั้ง “โฆษก” ที่ฝ่ายนักศึกษายอมรับ ในภาวะล่อแหลม! พร้อมย้อนความจำเสื้อแดงเจรจารัฐบาลแต่สุดท้าย ถูกปราบ!
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ติดตามความเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง โดยเห็นว่า ในสถานการณ์ปัจจุบัน ทุกฝ่ายควรใช้เหตุผลในการนำเสนอ หลีกเลี่ยงการยุยั่ว ปลุกปั่น อันจะเป็นเหตุในการสร้างความไม่พอใจให้อีกฝ่าย ก่อให้การปะทะและเผชิญหน้ากัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ประชาชนคนไทยไม่อยากเห็น
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เคยคิดว่าอยู่เหนือการเมือง และพยายามหารือทุกภาคส่วนเพื่อร่วมกันหาทางออก จึงได้ดำริให้มีกระบวนการเปิดรับฟังความคิดเห็นของเยาวชนคนรุ่นใหม่ เพื่อสะท้อนมุมมอง ความต้องการ ว่าอยากเห็นอนาคตของตัวเองและประเทศชาติเดินไปในทิศทางใด จึงขอเชิญชวนให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ ได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเพื่อนำเสนอมุมมองใหม่ๆ แก้ไขปัญหาประเทศ
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ในสถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ คาดหวังให้สภาผู้แทนราษฎร ได้ใช้กลไกที่มีอยู่แก้ไขปัญหาต่างๆ ตามหลักของกระบวนการประชาธิปไตย ขณะที่รัฐบาลก็เตรียมเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยไม่ได้นิ่งเฉยกับข้อเรียกร้องของผู้แทนและภาคส่วนต่างๆ
ดังนั้น จึงขอให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้ทำงานอย่างเต็มกำลัง เพื่อหาทางออกจากสถานการณ์นี้ เพราะปัญหาทางการเมือง ควรถกเถียงและแก้ไขกันในสภา เพราะสภาคือตัวแทนของประชาชน
“ส่วนกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้จับกลุ่มนักศึกษา นักกิจกรรมทางการเมืองนั้น นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ไม่ได้มีการสั่งการ แต่เป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และย้ำอีกว่า นายกฯไม่มีอำนาจเข้าไปแทรกแซงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการและการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่
นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ส่วนตัวยอมรับสิทธิของประชาชนในการเรียกร้อง ชุมนุมส่วนจะทำให้การชุมนุมขยายวงกว้างขนาดไหน มองว่า เป็นเรื่องที่ทุกคนควรคำนึงถึงปัญหาในตอนนี้ ที่เจอปัญหาเศรษฐกิจโดยอนาคต 1-2 เดือนปัญหาเศรษฐกิจจะใหญ่กว่าที่เจอกัน และสิ่งที่เราต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจให้นักท่องเที่ยวเข้ามา แต่หากมีการ หรือทำให้เกิดความไม่มั่นใจในการเดินทางมาไทย เพราะเหตุผลทางการเมือง นั่นเท่ากับเราไม่ได้ช่วยเหลือประเทศ แต่อาจเป็นการทำร้ายประเทศ ถ้าเราบริหารการชุมนุมให้มีความเหมาะสม แสดงความเห็นต่างภายใต้กฎหมาย และสร้างโอกาสการพูดคุยกัน เป็นเรื่องที่สำคัญมากกว่า พร้อมย้ำว่าคนไทยส่วนใหญ่อยากให้ประเทศมีความสงบเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
ส่วนการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นยืนยันว่าไม่มีปัญหาในการรับฟังความคิดเห็นนักเรียนนักศึกษาที่มีความเห็นต่าง ซึ่งจะร่วมมือกับ รมว.อุดมศึกษาฯ เปิดเวทีที่สามารถให้แสดงออกอย่างกว้างขวาง ตราบใดที่ไม่มีความหยาบคายก้าวร้าว และไม่ได้เป็นเรื่องที่เกิดความแตกแยกในประเทศ
โดยรูปแบบของเวทีรับฟังความคิดเห็น ต้องถามผู้ชุมนุมว่า กลุ่มแกนนำมีใครบ้าง / หากรวมตัวกันได้ จะดีที่สุด เพราะเราจะได้พูดคุยกับแกนนำในครั้งเดียว พร้อมคิดว่ากระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงอุดมศึกษาฯน่าจะเป็นทางออกของรัฐบาลในการเปิดเวทีฟังความเห็น ส่วนกรอบเวลา ยืนยันว่า ถ้าพร้อมเมื่อไหร่ ก็ยินดี เพราะตนก็พร้อมตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค.เป็นต้นไป