รายการ Talking Thailand ประจำวันที่ 18 มีนาคม 2563
“อ.พิชญ์” ตั้งคำถามกลับ ปมพรรคพลังประชารัฐ ชูประเด็นคนร้อง “หน้ากากอนามัย” ทั้งหายาก ทั้งแพง ให้ข่าวเพื่อยืมมือสื่อแทงข้างหลังพรรคร่วมรัฐบาลที่มี 52 เสียง อย่าง “ประชาธิปัตย์” ที่กำลังคนในกระทรวงพาณิชย์เที่ยวฟ้องร้องคนปล่อยข่าวพัวพันส่งออกหน้ากากฯ แต่ยังไม่เคยโชว์หลักฐานตอบโต้! หรือแสดงความบริสุทธิ์ใจ
นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษา รมว.พาณิชย์ แถลงกรณีการมอบอำนาจทนายความดำเนินคดี 2 ข้อหาต่อนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ในความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ หรือความผิดตามกฎหมายอื่นๆ จากการที่นายอัจฉริยะกล่าวหาให้ร้ายว่ามีที่ปรึกษารมว.พาณิชย์มีส่วนเกี่ยวข้องกับการส่งออกหน้ากากอนามัย
การที่ไม่ได้ออกมาตอบโต้ตั้งแต่ต้น เนื่องจากนายอัจฉริยะไม่ได้ระบุชื่อ แต่เพราะการพูดซ้ำหลายครั้ง และพาดพิงถึงที่ปรึกษารัฐมนตรีซึ่งเป็นผู้หญิง ระบุถึงบุคลิกทำให้คนเชื่อได้ว่าเป็นนางมัลลิกา ประกอบกับที่ปรึกษาซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง คือนางมัลลิกา ดังนั้นจึงต้องดำเนินการทางคดีอาญา เพื่อให้สังคมสิ้นสงสัยจากความอึมครึมเพราะมีการกล่าวหาแต่ฝ่ายเดียว กระทบการทำหน้าที่ของ รมว. และข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ / ผู้คนมโน ผสมจินตนาการมากมายบนสังคมสื่อออนไลน์
พร้อมชี้แจงโดยระบุเป็นข้อ ๆ ว่า 1.ปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการส่งออกหน้ากากอนามัย หรือกิจการใดของผู้ประกอบการเกี่ยวกับหน้ากากอนามัย ทั้งสิ้น
2.ปฏิเสธว่าไม่รู้จัก ไม่มีความสัมพันธ์ ไม่ได้ผูกพัน ไม่ได้ใกล้ชิด ไม่ได้มีมิตรคนใดไปเกี่ยวข้องกับกิจการหน้ากากอนามัยของบริษัทใดทั้งสิ้น
3. ในการทำหน้าที่ขออนุญาตส่งออกตามระเบียบราชการ จะมีคณะ อนุกรรมการจากกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) เป็นผู้พิจารณา ฝ่ายข้าราชการการเมืองไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ จึงเป็นไปไม่ได้ ที่จะมีส่วนเกี่ยวข้องตามที่พยายามยัดเยียด ข้อกล่าวหา
อย่างไรก็ตาม ยินดีให้ความร่วมมือในการตรวจสอบภาคประชาชนทุกคน แม้แต่นายอัจฉริยะในฐานะภาคประชาชน เดินหน้าทำการตรวจสอบต่อไป อย่าได้หยุด แต่การตรวจสอบนั้นต้องรวบรวมข้อมูลหลักฐานให้ชัดเจนก่อนจะกล่าวหา ขอให้นำพยานหลักฐานทุกชนิดเข้าสู่กระบวนการสอบสวน
นางมัลลิกายังบอกอีกว่า คนที่ชื่อ "มัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข " เชื่อมั่นและเชื่อใจได้ เพราะที่ผ่านมาดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมืองหลายครั้ง ใน 3 กระทรวง ไม่เคยด่างพร้อย และตลอดเส้นทางการทำงานนั้น "ได้ยึดหลักความซื่อสัตย์-สุจริตเสมอมา หลักการนี้มันอยู่ที่จิตสำนึก มโนสำนึก ไม่ได้อยู่ในบุคลิกหน้าตา มัลลิกาเป็นมนุษย์ทำงาน จึงมุ่งมั่นทำงาน ขอให้กำลังใจมนุษย์ทำงานทุกคน มนุษย์ทำงานต้องได้รับความเป็นธรรม"
ในภาวะวิกฤตนี้ ทุกคนต่างมีงาน มีหน้าที่ มีความรับผิดชอบ ทั้งข้าราชการกระทรวงพาณิชย์และฝ่ายบริหารทุกคนต่างก็มุ่งมั่นทำงานในภาวะวิกฤต และตลอดเดือนกว่ามานี้หลายคนต้องอดตาหลับขับตานอน โดยเฉพาะข้าราชการที่กรมการค้าภายใน
กระทรวงพาณิชย์ ต้องทำงานแก้ไขปัญหาทุกวินาทีที่เขาหายใจ ซึ่งอาจจะไม่ทำให้ถูกใจทุกคนได้ เพราะปัจจุบันภาระหน้าที่ซึ่งอยู่ตรงหน้าเป็นวิกฤตระดับโลก แต่ทุกคนก็สู้สุดใจในการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนจนสุดกำลังความสามารถ
ด้านนายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ในฐานะ ผอ.ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากประชาชนและเพื่อน ส.ส. ว่า พบการขายหน้ากากอนามัยเกินราคาและหาซื้อยาก รวมถึงให้กำลังใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่สื่อสารความคืบหน้าเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 ให้ประชาชนรับทราบทุกวัน หลายคนขอให้นายกฯ พักผ่อน ดูแลสุขภาพ
นายสามารถ กล่าวอีกว่า ปัญหาหน้ากากอนามัยราคาแพงเพราะเกิดจากความเห็นแก่ ของคนกักตุนและนำมาขายในโลกออนไลน์ ซึ่งความหวาดกลัวตื่นตระหนกของประชาชนทำให้จำเป็นต้องซื้อ หากเปรียบเหมือนกับสลากกินแบ่งรัฐบาลต่อให้มีราคาแพงก็มีประชาชนซื้อ เนื่องจากว่าเป็นความต้องการของประชาชน อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อป้องกันการกักตุนและเร่งผลิตให้ประชาชนสามารถใช้สอยได้ พร้อมเน้นเพิ่มจำนวนหน้ากากอนามัยทางเลือกเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงและใช้ซ้ำได้อีก โดย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เน้นย้ำกรมราชทัณฑ์ ให้ผลิตหน้ากากอนามัยทางเลือก เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของพี่น้องประชาชน ตามนโยบายของรัฐบาล
นายสามารถยังอ้างข้อมูลองค์การอนามัยโลก (WHO) ที่เปิดเผยเมื่อ17 มี.ค.63 ที่รายงานยอดผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ทั่วโลกเพิ่มขึ้น แต่จะเห็นได้ว่าในไทยมีมาตรการป้องกันและแพร่ระบาด ค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับต่างประเทศ หากเทียบระหว่างไทยกับประเทศในอาเซียน พบว่าประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อน้อยกว่ามาเลเซียที่มีผู้ติดเชื้อ 566 ราย / สิงคโปร์ 243 ราย และฟิลิปปินส์ 187 ราย