หลังจากรัฐบาลไทยประกาศว่าจะออกมาตรการจัดระเบียบการสูบบุหรี่ตามชายหาด พร้อมผลักดันโครงการนำร่อง 20 แห่งทั่วประเทศ เพื่อแก้ปัญหาขยะตกค้างตามสิ่งแวดล้อม สื่อต่างประเทศก็เผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวเพื่อเตือนนักท่องเที่ยวที่คิดจะเดินทางมาไทยในเร็วๆ นี้
หนังสือพิมพ์ซิดนีย์ มอร์นิง เฮรัลด์ หรือ SMH สื่อของออสเตรเลีย และเว็บไซต์โคโคนัท ซึ่งมีผู้สื่อข่าวอยู่ในหลายประเทศแถบเอเชีย รายงานว่ารัฐบาลไทยมีแผนจะจัดระเบียบการสูบบุหรี่ตามชายหาด โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม 20 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งจะเป็นพื้นที่สำหรับจัดทำโครงการนำร่อง ตามข้อเสนอของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ต้องการแก้ปัญหาขยะบริเวณชายหาด
สื่อทั้งสองสำนักอ้างอิงคำให้สัมภาษณ์ของนายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ซึ่งระบุว่าโครงการนำร่องจะเริ่มขึ้นในเดือนพฤศจิกายน โดยจะรวมถึงหาดแม่พิมพ์ แหลมสิงห์ บางแสน ชะอำ เขาตะเกียบ หาดทรายรี พัทยา จอมเทียน บ่อผุด เกาะไข่นอก เกาะไข่ใน และป่าตอง โดยพื้นที่ดังกล่าวจะมีกฎห้ามผู้ที่สูบบุหรี่ไม่ให้เดินไปตามแนวชายหาด แต่จะสูบได้เฉพาะในพื้นที่ซึ่งหน่วยงานท้องถิ่นจัดไว้ให้เท่านั้น และถ้าหากว่าโครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย รวมถึงประสบความสำเร็จในการลดปริมาณขยะประเภทก้นบุหรี่ ก็อาจจะมีการขยายพื้นที่จำกัดการสูบบุหรี่ไปยังเรือโดยสารหรือเรือนำเที่ยวด้วย
เว็บไซต์ SMH ยังได้กล่าวเตือนนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียที่คิดจะเดินทางมาไทยในเดือนหน้า ให้เพิ่มความระมัดระวังเมื่อไปเที่ยวที่ชายหาดซึ่งเป็นพื้นที่นำร่อง เพราะผู้ที่ฝ่าฝืนจะถูกลงโทษปรับเงิน 1 แสนบาท หรือประมาณ 3 พันดอลลาร์สหรัฐฯ หรือลงโทษจำคุกสูงสุด 1 ปี และที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลียเดินทางมายังไทยอย่างน้อยปีละประมาณ 8 แสนคน
สื่อออสเตรเลียระบุด้วยว่า ประเทศไทยมีบทลงโทษผู้กระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับบุหรี่ที่ค่อนข้างรุนแรงเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ว่าจะเป็นคำสั่งห้ามสูบบุหรี่ในอาคารและที่สาธารณะ รวมถึงข้อกำหนดเรื่องการนำเสนอภาพและคำเตือนภัยจากการสูบบุหรี่บนซองบุหรี่ยี่ห้อต่างๆ โดยสถิติของรัฐบาลไทยบ่งชี้ว่าร้อยละ 60 ของประชากรชายไทยยอมรับว่าสูบบุหรี่เป็นประจำ
ส่วนการผลักดันมาตรการควบคุมการสูบบุหรี่ตามชายหาด เกิดขึ้นภายหลังจากที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน สุ่มสำรวจปริมาณขยะประเภทก้นบุหรี่บริเวณพื้นที่ชายหาดป่าตอง เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา และพบว่ามีก้นบุหรี่จำนวนมากกว่า 60,000 ชิ้นตกค้างต่อพื้นที่ประมาณ 2.5 กิโลเมตรของหาดป่าตอง ทำให้เกิดความเสียหายทางสิ่งแวดล้อมและทัศนียภาพ จำเป็นจะต้องแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน