ผลการจัดอันดับ 30 นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จก่อนอายุ 30 ในสหรัฐฯ ประจำปี 2017 พบว่ามีธุรกิจใหม่ๆ 5 ประเภทที่กำลังมาแรงในกลุ่มนักธุรกิจยุคมิลเลนเนียล ตั้งแต่อาหารคลีนไปจนถึงการเดินทางในอวกาศ
INC. นิตยสารชื่อดังของสหรัฐฯที่เน้นการส่งเสริมธุรกิจขนาดเล็ก ประกาศผล 30 Under 30 หรือการจัดอันดับ 30 นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่ยังอายุไม่ถึง 30 ปี ซึ่งในปีนี้ พบว่าบรรดาผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว ล้วนอยู่ในสายธุรกิจใหม่ๆ ทำให้ INC. มองว่า ธุรกิจ 5 ประเภทต่อไปนี้ คืออนาคตสำหรับนักลงทุนยุคมิลเลนเนียล ทั้งด้วยความทันสมัย มีความต้องการสูง มีโอกาสเติบโตเร็ว และยังมีผู้แข่งขันน้อยรายเนื่องจากเป็นธุรกิจเกิดใหม่
1. ฟินเทค
คำนี้เพิ่งเป็นที่รู้จักแพร่หลายในไทยในช่วงไม่เกิน 2-3 ปีมานี้ แต่ในต่างประเทศความนิยมในเทคโนโลยีการเงินออนไลน์ มีมานานก่อนหน้านี้และกำลังแพร่ขยายอย่างรวดเร็ว โพลล่าสุดพบว่าชาวอเมริกันมีความมั่นใจในสถาบันการเงินกระแสหลักเพียงร้อยละ 30 เท่านั้น ทั้งจากแนวคิดต่อต้านทุนนิยม ความหวาดระแวงวอลสตรีท และค่าธรรมเนียมที่แพงกว่าการทำธุรกรรมการเงินผ่านฟินเทค และในปี 2016 ที่ผ่านมา สตาร์ทอัพประเภทฟินเทคก็ยังไม่สามารถระดมเงินทุนได้ถึง 12,700 ล้านดอลลาร์
2. อาหารคลีน
ในยุคที่การรักษาสุขภาพ ออกกำลังกาย และกินอาหารที่มีประโยชน์ กลายเป็นตัวชี้วัดสถานะทางสังคม การศึกษา และรสนิยม คงยากจะมีธุรกิจไหนเติบโตได้ดีเท่าการขายอาหารคลีน ตั้งแต่ปี 2011-2015 ธุรกิจอาหารวีแกนหรืออาหารคลีนในโลกเพิ่มจำนวนขึ้นถึงร้อยละ 60 ขณะที่สมาพันธ์การค้าออร์แกนิกของสหรัฐฯเปิดเผยว่าผู้บริโภคชาวอเมริกันใช้เงินกับอาหารออร์แกนิกถึง 43,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 1.4 ล้านล้านบาท
3. อวกาศและเทคโนโลยี
อีลอน มัสก์ และเจฟ เบโซส เป็นตัวอย่างของนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่มุ่งมั่นกับการบุกเบิกเทคโนโลยีอวกาศ สานฝันการท่องจักรวาลของมนุษยชาติ ในปี 2015 ธุรกิจอวกาศทำรายได้ในสหรัฐฯมากถึง 608,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 20 ล้านล้านบาท และเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องประมาณร้อยละ 2 ต่อปี
ธุรกิจอวกาศยังเป็นอุตสาหกรรมที่ใช้เงินทุนมหาศาล แต่เทรนด์คล้ายๆกันก็เกิดขึ้นในกลุ่มสตาร์ทอัพรายเล็กด้วย โดย INC. พบว่าสตาร์ทอัพจำนวนมากประสบความสำเร็จจากธุรกิจเกี่ยวกับดาวเทียม โดรน และพลังงานทางเลือก เช่น Modern Electron สตาร์ทอัพอเมริกันที่ผลิตเครื่องปั่นไฟสำหรับใช้ในบ้านหรือธุรกิจขนาดเล็ก ซึ่งทำให้ผู้บริโภคได้ใช้ไฟฟ้าในราคาถูกกว่าการซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้ากระแสหลัก
4. การตลาดโซเชียล
บริษัทที่ปรึกษาเคยเป็นธุรกิจที่ทำเงินมหาศาลท่ามกลางการแข่งขันของบรรษัทข้ามชาติยักษ์ใหญ่ทั่วโลก แต่ปัจจุบัน การให้คำปรึกษาด้านการตลาดได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบไปสู่มิติใหม่ เมื่อคนยุคปัจจุบันมีความสนใจยาวเพียง 8 วินาที สั้นกว่าปลาทองที่สามารถสนใจในสิ่งๆหนึ่งได้ 9 วินาที การโฆษณาจึงต้องปรับรูปแบบให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์และการรับรู้ของผู้บริโภค สตาร์ทอัพจำนวนมากประสบความสำเร็จกับการรับทำวีดีโอหรือให้คำปรึกษาบริษัทต่างๆเกี่ยวกับการทำคลิปไวรัลและโฆษณาออนไลน์ รวมถึงช่วยวิเคราะห์ข้อมูลทราฟฟิกในเว็บไซต์ของลูกค้า เพื่อตอบโจทย์ด้านการตลาดอย่างตรงเป้า เช่น TrackMaven ผู้ให้บริการออนไลน์ดาตา ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถติดตามผลว่าการใช้สื่อโฆษณาทั้งทีวีและออนไลน์ สามารถดึงคนเข้าสู่เว็บไซต์ของตนเองได้มากน้อยเพียงใด
5. เครื่องใช้อัจฉริยะ
Internet of Things หรือนวัตกรรมที่อินเทอร์เน็ตเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันทุกชนิด เป็นเทรนด์ของวงการเทคโนโลยีในทศวรรษนี้ ภายในปี 2020 ประเมินว่าจะมีการใช้จ่ายเพื่อซื้อสมาร์ทแก็ดเจ็ทประมาณ 267,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 9.2 ล้านล้านบาท และบริษัทเทคโนโลยชั้นนำอย่างกูเกิลและแอมะซอนก็ยังลงทุนพัฒนาผู้ช่วยดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง สตาร์ทอัพรายเล็กก็เดินตามเทรนด์นี้เช่นกัน โดยมีบริษัทจำนวนมากผลิตแก็ดเจ็ทเล็กๆล้ำสมัย เพื่อตอบสนองเทรนด์การใช้อุปกรณ์ไฮเทคของคนยุคใหม่ อย่าง Thalmic Labs ที่ผลิตสายรัดแขนซึ่งช่วยให้ผู้สวมใส่ควบคุมสมาร์ทโฟนและแล็ปท็อปได้โดยไม่ต้องสัมผัส เพียงใช้การเคลื่อนไหวมือในอากาศเท่านั้น