ประเทศไทยได้รับการโหวตจากนานาชาติให้เป็นประเทศที่น่าเข้ามาสร้างหรือเริ่มต้นธุรกิจใหม่อันดับที่ 1 ของโลกติดต่อกัน 2 ปีซ้อน
US News and World Report ทำการจัดอันดับ Best Countries to Start a Business ประเทศที่เหมาะแก่การสร้างหรือเริ่มต้นธุรกิจใหม่มากที่สุดเป็นอันดับที่ 1 ของโลก ซึ่งปีนี้ประเทศไทยได้รับการโหวตจากนานาชาติติดต่อกันเป็นปีที่ 2 แล้ว โดยมีการให้เหตุผลทางหน้าเว็บไซต์ของ usnews.com ไว้ว่า ตามข้อมูลจากธนาคารโลก การเริ่มต้นธุรกิจในประเทศไทยนั้นใช้เวลาเฉลี่ยนอยู่ที่ 26 วัน และมีต้นทุนเฉลี่ยเพียงแค่ 6.6% ของรายได้เฉลี่ยต่อหัวเท่านั้น
นอกจากนั้นเมื่อวิเคราะห์ไปที่ตัวเลขความหนาแน่นของการเริ่มทำธุรกิจใหม่ของประชากรในประเทศยังพบว่า ไทยคือหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการสร้างธุรกิจใหม่น้อยที่สุดในภูมิภาค ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นว่ายังมีช่องว่างและโอกาสอีกมากสำหรับนักธุรกิจมือใหม่ที่ต้องการจะประกอบธุรกิจส่วนตัว และสร้างรายได้จากธุรกิจใหม่ของตัวเอง
แม้ว่าไทยจะถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 2 ในการเป็นประเทศที่มีค่าใช้จ่ายต่ำที่สุดในการทำธุรกิจนักธุรกิจ แต่บรรดาบริษัทจากต่างชาติมากมายที่ต้องการจะเข้ามาสร้างธุรกิจในไทย แต่ไม่ได้มีบุคคลที่ถือสัญชาติไทยถือครองหุ้นในสัดส่วนที่มากกว่าชาวต่างชาติตามสัดส่วนที่กำหนด จะต้องเผชิญกับความยากลำบากในการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 หรือ Foreign Business Act และหลายครั้งก็ส่งผลกระทบทางลบในการทำให้นักลงทุนนั้นหันหน้าไปหาประเทศอื่นที่มีขั้นตอนการเริ่มต้นธุรกิจที่ซับซ้อนน้อยกว่า
อันดับที่ 2 รองจากไทยที่ได้รับการจัดอันดับจาก US News and World Report ให้เป็นประเทศที่เหมาะแก่การสร้างหรือเริ่มต้นธุรกิจใหม่มากที่สุดคือจีน ด้วยการผลักดันจากรัฐบาลของนายสีจิ้นผิงที่ประกาศไว้ในแผนการพัฒนาประเทศในระยะ 5 ปีระหว่างปี 2016-2020 ว่าจะมุ่งเน้นพัฒนาด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างเต็มความสามารถ และมีค่าเฉลี่ยของการเริ่มต้นธุรกิจในประเทศอยู่ที่ 28 วัน ส่วนอีก 3 ประเทศที่ติดอยู่ใน Top 5 ประเทศน่าสร้างธุรกิจใหม่ก็คือ มาเลเซีย อินเดีย และ อินโดนีเซีย ตามลำดับ
นอกจากนี้ทาง US News and World Report ยังได้มีการจัดอันดับประเทศต่างๆ ทั่วโลกในด้านต่างๆ อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นด้านอำนาจทางเศรษฐกิจและการเมือง คุณภาพชีวิต การศึกษา ศักยภาพด้านธุรกิจ อิทธิพลทางวัฒนธรรม ด้านการรักษาสิ่งแวดล้วม ประเทศที่เหมาะกับผู้หญิงมากที่สุด หรือแม้ประเทศที่มีการเลี้ยงดูบุตรได้อย่างมีคุณภาพที่สุด เป็นต้น
