ไทยเบฟพร้อมทุ่มงบลงทุน 5,000 ล้านบาทต่อปี ปรับปรุงระบบการผลิตรองรับความต้องการของตลาด พร้อมเตรียมรุกตลาดเบียร์พรีเมียม โดยการนำเบียร์เยอรมันและญี่ปุ่นเข้ามาทำตลาด
นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ได้จัดทัพธุรกิจใหม่แบ่งออกเป็น 3 กล่มธุรกิจหลัก คือ กลุ่มสุรา กลุ่มเบียร์ และกลุ่มเครื่องดื่มที่ปราศจากแอลกอฮอล์ หรือนอน แอลกอฮอล์ เพื่อให้แต่ละกลุ่มมีสินค้าที่ชัดเจน และทำตลาดได้อย่างเต็มที่
นอกจากนี้ยังเตรียมรุกตลาดเบียร์พรีเมียม ซึ่งเป็นตลาดที่ไทยเบฟฯยังขาดอยู่ เพื่อให้มีสินค้าครบทุกตลาด ด้วยการซื้อเบียร์ต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่นกับเยอรมัน ขณะที่ในตลาดล่างซึ่งเป็นตลาดใหญ่นั้น เบียร์ช้างมีความแข็งแกร่งอยู่แล้ว
สำหรับแผนลงทุนไทบเบฟฯ ตั้งงบประมาณการลงทุนในแต่ละปีไว้ ไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในการปรับปรุงระบบการผลิต และการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ การขยายกำลังการผลิต และอื่นๆ
ทั้งนี้ ไทยเบฟฯ ให้ความสำคัญกับตลาดอาเซียน และมีเป้าหมายก้าวขึ้นเป็นผู้นำตลาดเครื่องดื่มในอาเซียน ซึ่งปัจจุบัน ทั้งกลุ่มมีส่วนแบ่ง 14% และจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำติด 1 ใน 5 ของตลาดเอเชีย ด้วยสินค้าจาก 5 บริษัทคือ ไทยเบฟ, โออิชิ, เสริมสุข, เอฟแอนด์เอ็น และอินเตอร์เนชั่นแนลเบฟเวอเรจ
ไทยเบฟเวอเรจ มีสินค้าหลายแบรนด์ เช่น แบรนด์ช้าง ซึ่งมีทั้ง เบียร์ โซดา น้ำดื่ม และสุรา แสงโสม แม่โขง และเบียร์อาชา , บริษัท โออิชิ จำกัด (มหาชน) เจ้าของเครื่องดื่มชาเขียวแบรนด์ โออิชิ โออิชิฟรุตโตะ และร้านอาหารในเครือโออิชิ, บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) เจ้าของสินค้าเครื่องดื่มน้ำอัดลมแบรนด์ เอส น้ำดื่มคริสตัล และเครื่องดื่มชูกำลังแรงเยอร์ ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่านมา เสริมสุข ได้ขายแบรนด์เอสให้กับไทยเบฟไปแล้ว, และอีกบริษัทในเครือข่ายคือ บริษัท เฟรเซอร์ แอนด์ นีฟ จำกัด หรือ เอฟ แอนด์ เอ็น ที่ไทยเบฟได้เทคโอเวอร์มาเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา
ส่วนวิสัยทัศน์การดำเนินงานของไทยเบฟฯ ตั้งเป้าหมายไว้ว่า ภายในปี 2563 กลุ่มไทยเบฟจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำติด 1 ใน 2 ของผู้นำตลาดเครื่องดื่มในอาเซียน และจะต้องมีอัตราการเติบโตทางด้านรายได้ไม่ ต่ำกว่า 12-15% ทุกปี
ผลประกอบการของไทยเบฟฯ ในช่วงครึ่งปีแรก ของปี 2557 มีรายได้รวมประมาณ 81,000 ล้านบาท มีกำไร 24,000 ล้านบาท ส่วนในปีที่ผ่านมา มีรายได้รวมประมาณ 1 แสน 5 หมื่น 5 พันล้านบาท มีกำไรประมาณ 19,000 ล้านบาท