ไม่พบผลการค้นหา
รัฐบาลกัมพูชาเตรียมออกกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเป็นครั้งแรก ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่ากฎหมายฉบับนี้จะถูกใช้เป็นเครื่องมือในการปราบปรามฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง

เว็บไซต์พนมเปญ โพสต์รายงานว่า เมื่อวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี พระมหากษัตริย์พระองค์ปัจจุบันของกัมพูชา ทรงจัดการประชุมหารือเรื่องการพิจารณาออกกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ขณะที่กระทรวงหมาดไทยของกัมพูชาได้ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า การประชุมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อหารือถึงมาตรการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์

นายซอ เค็ง รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของกัมพูชาระบุว่า แม้รัฐธรรมนูญของกัมพูชาจะบัญญัติว่า พระมหากษัตริย์ทรงอยู่ในฐานะที่ผู้ใดจะล่วงละเมิดมิได้ แต่ที่ผ่านมากลับไม่มีกฎหมายที่เฉพาะเจาะจงในการเอาผิดผู้ที่ล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ ขณะที่ในหลายประเทศ เช่น ไทย ญี่ปุ่น และเนเธอร์แลนด์ ต่างมีกฎหมายในลักษณะนี้ ส่วนโฆษกกระทรวงมหาดไทยของกัมพูชาได้ออกมาเปิดเผยว่า ขณะนี้รัฐบาลกัมพูชากำลังพิจารณาปรับแก้ประมวลกฎหมายอาญาบางมาตรา เพื่อให้สามารถเอาผิดผู้ที่หมิ่นพระบรมเดชานุภาพได้

000_V57I5.jpg

นายฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ต่างตั้งข้อสังเกตว่า การพิจารณาออกกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของรัฐบาลกัมพูชาในครั้งนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมือง หลังจากที่รัฐบาลได้ประกาศยุบพรรคกู้ชาติกัมพูชา ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านในสภา รวมทั้งควบคุมตัวนายเกิม เสิกขา หัวหน้าพรรคด้วย 

นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลกัมพูชายังคุกคามสื่อและภาคประชาสังคมที่มีบทบาทในการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลอย่างหนัก โดยสถาบันประชาธิปไตยแห่งชาติ หรือ NDI องค์กรภาคประชาสังคมที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯถูกสั่งปิด และลูกจ้างชาวต่างชาติของ NDI ถูกเนรเทศออกจากกัมพูชา เช่นเดียวกับหนังสือพิมพ์ 'เดอะ แคมโบเดีย เดลี' สถานีวิทยุอีก 15 แห่ง และสำนักพิมพ์อีก 330 แห่งที่ถูกบังคับให้ปิดกิจการ

เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา อดีตรองนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ถูกนายฮุน เซน นายกรัฐมนตรีของกัมพูชาฟ้องร้องว่า ดูหมิ่นพระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี ว่าเป็น 'ไก่ตอน' ระหว่างการสนทนาแบบลับทางโทรศัพท์ เนื่องจากพระองค์ไม่ทรงเข้าแทรกแซงสถานการณ์ทางการเมือง 

000_Hkg10229222.jpg

นายสม รังสี อดีตหัวหน้าพรรคกู้ชาติกัมพูชา

นายพอล แชมเบอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศประจำมหาวิทยาลัยนเรศวรวิเคราะห์ว่า กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพอาจถูกรัฐบาลกัมพูชาใช้เป็นเครื่องมือในการปราบปรามฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง เนื่องจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ได้รับการแต่งตั้งในเชิงสัญลักษณ์จากพระมหากษัตริย์ ซึ่งเปิดช่องให้ศาลสามารถตีความกฎหมายฉบับนี้แบบกว้าง ให้อำนาจในการเอาผิดใครก็ตามที่วิพากษ์วิจารณ์นายฮุน เซนได้ โดยเฉพาะแกนนำพรรคฝ่ายค้านอย่างนายสม รังสี / นายเกิม เสิกขา / นางมู สุคัว หรือแม้แต่ชาวต่างชาติที่วิจารณ์นายฮุน เซน 

ในทางตรงกันข้าม นายแชมเบอร์ระบุว่า เป็นไปไม่ได้เลยที่กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพจะถูกนำมาใช้เอาผิดนายฮุน เซน เพราะพรรคประชาชนกัมพูชาของเขาสามารถควบคุมกระบวนการยุติธรรมได้ทั้งหมด

000_SB4RF.jpg

อดีตส.ส.พรรคกู้ชาติกัมพูชาประท้วงที่ด้านหน้าทัณฑสถาน เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลปล่อยตัวนายเกิม เสิกขา อดีตหัวหน้าพรรคกู้ชาติ

ด้านนายแบรด อดัมส์ ผู้อำนวยการฮิวแมนไรท์วอทช์ประจำเอเชีย ออกมาแสดงจุดยืนต่อต้านกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของกัมพูชาเช่นกัน โดยนายอดัมส์ระบุว่า กฎหมายที่มีเป้าหมายเฉพาะเจาะจงในการปกป้องพระเกียรติยศของสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นกฎหมายที่ขัดต่อหลักเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น พร้อมโจมตีรัฐบาลกัมพูชาว่า พยายามย้อนอดีตกลับสู่ยุคกลางที่พระมหากษัตริย์ถูกมองว่าเป็นสมมติเทพมากกว่ามนุษย์

นอกจากนี้ นายอดัมส์ยังเรียกร้องให้พระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี ทรงใช้ประสบการณ์สมัยที่พระองค์ทรงดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำยูเนสโก แสดงจุดยืนว่ากฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพไม่จำเป็นสำหรับกัมพูชา

อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้สำนักพระราชวังของกัมพูชายังคงปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นแต่เรื่องนี้ จนกว่ารัฐบาลจะมีการประกาศใช้กฎหมายอย่างเป็นทางการ