ไม่พบผลการค้นหา
ศาลกัมพูชาตัดสินยุบพรรคฝ่ายค้านหลัก ในข้อหาร่วมสมคบคิดกับต่างชาติโค่นล้มรัฐบาล ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ว่า รัฐบาลพยายามปราบคู่แข่ง ก่อนจะมีการเลือกตั้งปีหน้า

ศาลสูงสุดของกัมพูชาตัดสินยุบพรรคกู้ชาติกัมพูชา หรือ CNRP พรรคฝ่ายค้านหลักของกัมพูชา และตัดสิทธิ์ทางการเมืองของสมาชิกอาวุโสของพรรค CNRP จำนวน 118 คนเป็นเวลา 5 ปี หลังพรรคประชาชนกัมพูชาของนายฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชายื่นฟ้องร้องว่า พรรค CNRP วางแผนโค่นล้มรัฐบาล โดยก่อนหน้านี้ นายเกิม เสิกขา หัวหน้าพรรค CNRP ก็ถูกตั้งข้อหาว่า เป็นกบฏและสมรู้ร่วมคิดกับสหรัฐฯ โค่นล้มรัฐบาล โดยขณะนี้นายเกิมยังถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษ ขณะที่สื่อกัมพูชารายงานว่าก่อนหน้าการตัดสินยุบพรรค ส.ส.ของพรรคฝ่ายค้านกว่าครึ่งได้เดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงการกวาดล้างของรัฐบาล

Cambodia Politics_Rata.jpg

เกิม เสิกขา หัวหน้าพรรค CNRP ถูกตั้งข้อหากบฏและสมรู้ร่วมคิด รับเงินจากต่างชาติเพื่อโค่นล้มรัฐบาล รัฐบาลนายฮุน เซน ประกาศว่าใครที่เคลื่อนไหวเพื่อสนับสนุนนายเกิม จะถูกดำเนินคดีข้อหาสมคบคิดกบฏด้วย

กลุ่มนักสิทธิมนุษยชนในกัมพูชาต่างวิพากษ์วิจารณ์ว่า คดีนี้เป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง เพื่อกำจัดคู่แข่งสำคัญของพรรครัฐบาล ก่อนจะมีการจัดการเลือกตั้งในเดือนกรกฎาคมปี 2018 นี้ เนื่องจากพรรค CNRP ได้รับคะแนนนิยมเพิ่มขึ้นมากในการเลือกตั้งปี 2013 และถือเป็นคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อกับพรรคของนายฮุน เซน ที่เป็นรัฐบาลมากว่า 30 ปี และก่อนจะมีคำพิพากษาออกมา นายฮุน เซน ได้ประกาศกร้าวว่า เขาเอาชีวิตเป็นเดิมพันว่า ศาลจะสั่งยุบพรรค CNRP อย่างแน่นอน

นอกจากสมาชิก 118 คนจะต้องโทษแบนห้ามเล่นการเมือง 5 ปี คำตัดสินดังกล่าวยังมีผลให้สมาชิกรัฐสภาพรรค CNRP 55 คนสิ้นสภาพส.ส. และนักการเมืองท้องถิ่นของพรรคอีก 489 คนก็ต้องพ้นจากตำหน่งเช่นกัน

ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา รัฐบาลกัมพูชาไล่ปราบปรามองค์กรที่เกี่ยวข้องกับสหรัฐฯ ทั้งสำนักข่าวและเอ็นจีโอต่างๆ ที่มักวิพากษ์วิจารณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชนและสิทธิที่ดินโดยรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลมองว่าเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบในประเทศ