ไม่พบผลการค้นหา
ผู้ก่อเหตุไม่ทราบฝ่ายขว้างระเบิดมือโจมตีการปราศรัยของนายกรัฐมนตรีคนใหม่แห่งเอธิโอเปีย ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย แต่นายกฯ ยังปลอดภัย ส่วนตำรวจระบุจะสอบสวนในฐานะคดีลอบสังหาร

อาบี อาเหม็ด นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของเอธิโอเปีย วัย 42 ปี กล่าวปราศรัยต่อสาธารณชนที่จัตุรัสเมสเคล กลางกรุงแอดดิส อะบาบา เมืองหลวงของเอธิโอเปีย วันนี้ (23 มิ.ย.) ซึ่งเป็นการปราศรัยครั้งแรกในเมืองหลวง หลังจากที่เขาชนะการเลือกตั้งและเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการเมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่อาเหม็ดกล่าวปราศรัยบนเวทีเสร็จสิ้นไม่นาน ได้เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นที่ด้านหน้าเวที และประชาชนต่างแตกตื่นตกใจ วิ่งหนีกันชุลมุน ทำให้มีผู้บาดเจ็บราว 132 คน แต่นายกรัฐมนตรียังปลอดภัย เพราะเจ้าหน้าที่หน่วยอารักขานำตัวออกไปจากเวทีหลังเกิดเหตุทันที

หลังจากนั้น กระทรวงสาธารณสุขของเอธิโอเปียได้ออกแถลงการณ์ยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุดังกล่าวอย่างน้อย 1 ราย เป็นผู้เข้าร่วมฟังปราศรัยที่ได้รับบาดเจ็บและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่อาการสาหัสจนไม่อาจรักษาได้

เจ้าหน้าที่ตำรวจในกรุงแอดดิส อะบาบา ระบุว่าจะสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในฐานะคดีลอบสังหาร เพราะผู้ก่อเหตุมีความรัดกุมและวางแผนมาอย่างดี สามารถหลบหนีไปจากที่เกิดเหตุได้ และเจ้าหน้าที่จะเร่งติดตามไปจับกุมดำเนินคดีแก่ผู้ก่อเหตุให้ได้ โดยอาจจะมีผู้ร่วมก่อเหตุเพิ่มเติม

AP-นายกเอธิโอเปีย-อาบี อาเหม็ด-แอดดิสอะบาบาAP-นายกเอธิโอเปีย-อาบี อาเหม็ด-แอดดิสอะบาบา

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานอ้างอิงผู้อยู่ในเหตุการณ์รายหนึ่ง อ้างว่าชายผู้ก่อเหตุสวมชุดตำรวจ แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยืนยันข้อมูลดังกล่าว ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์อีกรายหนึ่งระบุว่า คนร้ายพยายามจะขว้างระเบิดมือขึ้นไปบนเวที แต่ผู้สนับสนุนนายกรัฐมนตรีที่ยืนอยู่ใกล้ผู้ก่อเหตุสกัดเอาไว้ได้ ทำให้ระเบิดพลาดเป้าหมาย

ทั้งนี้ อาบี อาเหม็ด ได้รับการยกย่องว่าเป็นนายกรัฐมนตรีหัวก้าวหน้า หาเสียงด้วยนโยบายปฏิรูปประเทศ และริเริ่มการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในเวลาเกือบ 3 เดือนที่ดำรงตำแหน่งมา เช่น อภัยโทษผู้ต้องขังนับพันคนทั่วประเทศ ปรับเปลี่ยนผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงในกองทัพ เดินหน้าไกล่เกลี่ยความขัดแย้งกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างเอริเทรียรวมถึงเสนอแนวทางระงับความขัดแย้งระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์ในประเทศ พร้อมทั้งให้คำมั่นสัญญาว่าจะปรับแก้ระบบเศรษฐกิจให้เปิดกว้างและเสรีมากขึ้น 

อาเหม็ดได้กล่าวประณามผู้โจมตีการปราศรัยของตน แต่ขณะเดียวกันก็ขอให้ประชาชนอยู่ในความสงบ และแถลงว่า "ความรักจะชนะ การให้อภัยจะชนะ และการฆ่าเป็นสัญลักษณ์ของความพ่ายแพ้" พร้อมขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง เพราะหลังจากที่มีการโจมตีการปราศรัย กลุ่มผู้สนับสนุนนายกฯ ก็ออกมาเดินขบวนเรียกร้องให้ตำรวจจับตัวผู้ก่อเหตุให้ได้โดยเร็ว จนเกิดเหตุปะทะระหว่างผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่

ที่มา: AP/ Washington Post

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: