ในวันนี้ (29 ก.ย.) ศาลเผด็จการเมียนมาได้ตัดสินโทษจำคุก 3 ปีแก่ อองซาน ซูจี พร้อมกันกับ เทอร์เนลล์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจชาวออสเตรเลีย ซึ่งเป็นนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยแมคควอรีในซิดนีย์ ที่ถูกจับกุมตัวหลังจากการรัฐประหารเมื่อ ก.พ. 2564 ได้ 5 วัน ทั้งนี้ ตัวแทนจากสถานทูตออสเตรเลียไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าฟังการพิจารณาคดีในชั้นศาลเผด็จการเมียนมา และ เทอร์เนลล์ยังถูกปฏิเสธการให้ใช้ล่ามภาษาอังกฤษขณะการพิจารณาคดีด้วย
แหล่งข่าวใกล้ชิดซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อ ระบุโทษของทั้งสองต่อสำนัก Reuters ว่า “โทษ 3 ปีต่อคน ไม่มีการใช้แรงงานหนัก” อย่างไรก็ดี ทางการออสเตรเลียปฏิเสธกระบวนการของศาลเผด็จการเมียนมา และเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวเทอร์เนลล์โดยทันที
“รัฐบาลออสเตรเลียปฏิเสธข้อกล่าวหา ต่อศาสตราจารย์เทอร์เนลล์อย่างต่อเนื่อง ในช่วงกว่า 19 เดือนที่เขาถูกคุมขังอย่างอยุติธรรม โดยระบอบการปกครองของทหารเมียนมา” เพนนี หว่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศออสเตรเลียแถลง “เราจะยังคงใช้ทุกโอกาสที่จะสนับสนุนศาสตราจารย์เทอร์เนลล์อย่างจริงจัง จนกว่าเขาจะได้กลับไปหาครอบครัวของเขาในออสเตรเลีย”
รายละเอียดที่ชัดเจนในข้อหาความผิด ที่มีการกล่าวหาต่อ อองซาน ซูจี และเทอร์เนลล์ยังไม่ได้ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ แม้ว่าสถานีโทรทัศน์ของกองทัพเมียนมาได้ระบุเมื่อปีที่แล้วว่า เทอร์เนลล์สามารถเข้าถึง “ข้อมูลทางการเงินที่เป็นความลับของรัฐ” และเขาได้พยายามหลบหนีออกนอกเมียนมา ทั้งนี้ สมาชิกคนอื่นๆ ในทีมเศรษฐกิจของ อองซาน ซูจี ก็ถูกตั้งข้อหาในคดีลักษณะเดียวกัน
ทั้งอองซาน ซูจี และเทอร์เนลล์ในวัย 77 ปี ต่างปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว จากการขึ้นให้การบนชั้นศาลเผด็จการเมียนมา เมื่อช่วงเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ การตัดสินโทษจำคุก 3 ปีในครั้งล่าสุด ถูกประณามจากองค์การสิทธิมนุษยชนทั้งในออสเตรเลีย เมียนมา และนานาชาติอย่างรุนแรง
ปัจจุบันนี้ อองซาน ซูจี ในวัย 77 ปี ถูกตัดสินโทษจำคุกโดยศาลเผด็จการเมียนมาแล้วกว่า 20 ปี และเพิ่มขึ้นมากลายเป็น 23 ปี พร้อมกับการบังคับใช้แรงงานหนัก ยังมีคดีอีกหลาย 10 ข้อกล่าวหาที่กำลังรอการพิพากษาจากศาลเผด็จการเมียนมา ซึ่งอาจทำให้ อองซาน ซูจี ถูกตัดสินโทษจำคุกรวมกันนับร้อยปี ไม่ต่างอะไรไปจากการสั่งจำคุกตลอดชีวิต
นอกจากนี้ กองทัพเมียนมายังได้สังหารประชาชน ที่ต่อต้านระบอบรัฐประหารไปแล้วรวมกันกว่า 2,400 คนเป็นอย่างต่ำ รวมถึงการสั่งจำคุกประชาชนอีกอย่างน้อย 12,500 คน จากการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตย
ที่มา: