ไม่พบผลการค้นหา
รัฐบาลท้องถิ่นเมืองเซินเจิ้นประกาศห้ามซื้อขายสุนัขและแมวเพื่อนำมาบริโภค มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 พ.ค.เป็นต้นไป

เซินเจิ้น เขตเศรษฐกิจพิเศษของจีนที่ตั้งอยู่ในมณฑลกวางตุ้งประกาศ 'ไม่อนุญาต' ให้มีการซื้อขาย หรือบริโภคเนื้อสุนัขและแมว เป็นเมืองแรกของจีน หลังจากที่รัฐบาลจีนผ่านกฎหมายห้ามการบริโภคสัตว์ป่า

รัฐบาลเซินเจิ้นกล่าวว่า 'สุนัขและแมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับมนุษย์มากกว่าสัตว์ประเภทอื่น การห้ามบริโภคเนื้อสุนัขและเเมวเป็นข้อปฏิบัติทั่วไปในประเทศพัฒนาแล้วรวมไปถึงในฮ่องกงและไต้หวัน'

ทางการเมืองเซินเจิ้นยังระบุว่า สัตว์ที่สามารถนำมาบริโภคและอนุญาตให้บริโภคได้นั้นได้แก่ หมู วัว แกะ ลา กระต่าย ไก่ ห่าน เป็ด นกพิราบ นกกระทาและสัตว์น้ำอื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่ในกฎหมายห้ามอื่นๆ

อีกทั้ง หากพบว่ามีการบริโภคหรือลักลอบขายจะถูกปรับเป็นเงินสูงถึง 30 เท่าของมูลค่าสัตว์ป่า และมาตรการดังกล่าวนี้จะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่ 1 พ.ค. ที่จะถึงนี้เป็นต้นไป

องค์กร Humane Society International เปิดเผยว่า ในทวีปเอเชียมีการฆ่าสุนัขเพื่อการบริโภคมากถึงปีละ 30 ล้านตัว ขณะที่ในจีนมีการประเมินว่ามีการฆ่าสุนัขเพื่อบริโภคมากถึง 10 ล้านตัว และแมวอีก 4 ล้านตัวในทุกๆ ปี

ทั้งนี้ไม่ใช่เป็นครั้งแรกที่ทางการจีนประกาศห้ามการซื้อขายสัตว์ โดยเมื่อปี 2003 (พ.ศ. 2546) ทางการจีนประกาศห้ามซื้อขายตัวพังพอนและชะมด หลังจากพบว่าสัตว์ประเภทดังกล่าวมีความเชื่อมโยงในการแพร่ของไวรัสซาร์สจากสัตว์สู่คน และในเมืองกุ้ยโจวมีการห้ามซื้อขายงู หลังจากที่มีการแพร่ระบาดของโรคซาร์สเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ในบางพื้นที่ของจีนก็ยังมีการบริโภคสัตว์เหล่านี้อยู่เช่นกัน

ที่มา CNN / BBC

ข่าวที่เกี่ยวข้อง