นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงความคาดหวังต่อนโยบายด้านเศรษฐกิจของประเทศไทยในอนาคต ว่าส่วนตัวหวังเห็นการระดมเงินให้เข้ามาอยู่ในประเทศไทยมากที่สุด อย่างแรก ต้องไม่ยอมให้เงินไหลออกนอกประเทศ ภาครัฐต้องใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศไทย หรือที่เรียกว่า "เมด อิน ไทยแลนด์" เป็นหลัก
ขณะเดียวกัน ยังต้องคำนึงด้วยว่าการทำนโยบาย จะต้องสอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนไทย และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับประชาชน เมื่อรัฐบาลมีเงินลงทุน 1 ล้านล้านบาท ต้องแบ่ง 7 แสนล้านบาทไปสร้างสาธารณูปโภค ที่คนไทยทุกคนสามารถใช้ได้ เป็นที่นิยมในหมู่คนไทย เป็นความจำเป็นของคนไทย อาทิ สถานพยาบาล สถานศึกษา มอเตอร์เวย์ เป็นการพัฒนาที่ รัฐบาลไม่จำเป็นต้องพึ่งพาต่างชาติเลย เม็ดเงินลงทุนอยู่ในประเทศไทยทั้งหมด เมื่อสร้างเสร็จ จะนำพาความเจริญเข้าสู่พื้นที่โดยอัตโนมัติ
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า นอกจากเงินไม่ไหลออก ทางการต้องหาทางทำให้เงินไหลเข้าประเทศให้ได้มากที่สุด เท่าที่ทราบ กฎหมายและระบบราชการไทย ปิดกั้นการลงทุน เพราะภาครัฐเข้าไปตรวจสอบนักลงทุน ตั้งแง่กับนักลงทุนมากเกินไป กว่าจะเปิดโรงงาน หรือเข้ามาลงทุนได้ ต้องผ่านการตรวจสอบหลายขั้นตอน ความล่าช้าอาจทำลายโอกาสของบริษัทนั้นไปแล้ว ทำให้มีนักลงทุนจำนวนมากปฏิเสธมาตั้งหลักปักฐานการผลิตที่ประเทศไทย
ดังนั้น ควรออกเอกสารกำหนดมาตรฐานการลงทุน ให้ผู้ที่สนใจ มากรอกรายละเอียดว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง แล้วปล่อยให้เข้ามาลงทุนให้เร็วที่สุด จากนั้น ทางการจึงค่อยนำเอกสารดังกล่าว กลับมาตรวจสอบว่า แต่ละบริษัทสามารถทำตามที่ตกลงกันไว้ได้หรือไม่ หากทำไม่ได้ ค่อยดำเนินการตามกฎหมายต่อไป หากทำแบบนี้ประเทศไทยจะน่าลงทุนมากยิ่งขึ้น มีเม็ดเงินไหลเข้าประเทศมากกว่าเดิม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :