นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย ระบุในเวทีเสวนาพรรคการเมืองไทยบนเส้นทางแห่งการปฏิรูปของสถาบันพระปกเกล้า ว่า พรรคเพื่อไทยพยามยามรักษาจุดเเข็งที่มาจากพรรคไทยรักไทย คือการสังเคราะห์นโยบายที่ตอบสนองความต้องการของประชาชน แต่ปัจจุบันผู้มีอำนาจไม่ให้แม้แต่โอกาสพรรคสื่อสารกับสมาชิก จึงเป็นข้อจำกัดการมีส่วนร่วมทางการเมืองขณะที่วางยุทธศาสตร์ชาติ ที่มีผลตามกฎหมายบังคับให้พรรคการเมืองต้องทำตาม ถือเป็นการทำลายระบบการเมืองทั้งระบบ โดยพรรคเพื่อไทย เสนอให้รื้อทิ้งแนวคิดที่เอามากำหนดยุทธศาสตร์ชาติออกไป
นายจาตุรนต์ ยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยจะไม่ร่วมรัฐบาลกับผู้นำ คสช.อย่างแน่นอน และไม่ยอมรับแนวคิดการใช้รัฐประหารแก้ปัญหานักการเมืองหรือพรรคการเมืองลุแก่อำนาจ เพราะต้องหามาตรการป้องกันและถอดถอนหรือจัดการตามระบบรัฐสภาจึงถูกต้อง
'อนาคตใหม่' ยึดภารกิจตัดวงจรรัฐประหาร
เช่นเดียวกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ว่าที่หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า สังคมไทยต้องกลับสู่ทิศทางประชาธิปไตย บนพื้นฐานการเคารพหลักการสิทธิมนุษยชนโดยพรรคการเมืองต้องมองคะแนนเสียงกับอุดมการณ์เป็นเรื่องเดียวกัน จึงมุ่งเอาชนะทางความคิดเป็นสำคัญ มีแนวนโยบาย 3 ป.คือ ปลดล็อกสิ่งที่ขัดความความเจริญก้าวหน้า ปรับโครงสร้างสังคม ซึ่งต้องการกระจายอำนาจการปกครองและเปิดโอกาสรับนวัตกรรมเเละเทคโนโลยีใหม่ๆเพื่อพัฒนาประเทศและเเข่งขันได้
นายธนาธร ยังเสนอภารกิจในการเลือกตั้งที่จะมาถึงในเชิงยุทธศาตร์คือ 1)หยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของ คสช.2)ยกเลิกรัฐธรรมนูญ และ3)ลบล้างผลพวงรัฐประหาร รวมถึงการปฏิรูปกองทัพให้อยู่ใต้รัฐบาลพลเรือน ซึ่งจะเป็นการพิสูจน์ว่าคนไทยจะให้ประเทศถอยหลังโดยเลือกพรรคที่สนับสนุนทหารหรือ จะเดินหน้าโดยเลือกบรรดาพรรคการเมืองที่ต้องการแก้รัฐธรรมนูญและไม่สนับสนุนรัฐประหาร
'อภิสิทธิ์' ย้ำ 'ปชป.' พร้อมใช้ 'ไพรมารีโหวต' เลือกหัวหน้าพรรค
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่ายืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์มีประชาธิปไตยภายในพรรคตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง โดยอนาคตจะมีการไพรมารีโหวตเลือกหัวหน้าพรรค แม้ไม่มีผลบังคับทางกฎหมายแต่เชื่อว่าที่ประชุมใหญ่ของพรรคจะเคารพการตัดสินใจของสมาชิกที่ปราศจากการครอบงำของนายทุน ต้องสนับสนุนหัวหน้าพรรคเป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนนายกรัฐมนตรีคนนอกเกิดขึ้นยาก เพราะต้องอาศัยเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ลำพัง 250 ส.ว.ไม่เพียงพอ
โดยนายอภิสิทธิ์ยอมรับและเรียนรู้การลุแก่อำนาจของนักการเมืองที่จะมีการปฏิกิริยาตามมา คือการรัฐประหาร ส่วนยุทธศาสตร์ชาตินั้น พรรคประชาธิปัตย์ ชัดเจนว่าจะเลือกใช้ส่วนที่ดี หากส่วนไหนไม่ดีก็สามารถแก้ไขได้ตามกฎหมายโดยไม่ถูกถอดถอนแน่นอน
'ภูมิใจไทย' ขอทุกพรรคยอมรับผลเลือกตั้ง ปิดช่องรัฐประหาร
ส่วนนายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า พรรคไม่มีการล็อบบี้ตัวบุคคลหรือหัวหน้าพรรค ทุกคนล้วนพิสูจน์ตัวเองจนสมาชิกให้การยอมรับและพรรคจะไม่ตกอยู่ภายใต้นักธุรกิจแน่นอน โดยเห็นว่าการปฏิรูปตามแนวทางที่พรรคการเมืองต่างๆต้องการเป็นเรื่องยากและอาจออกนโยบายใหม่ๆไม่ได้เพราะมียุทธศาสตร์ชาติของ คสช.กำหนดกรอบไว้ซึ่งนายสรอรรถ ไม่เห็นด้วย
นายสรอรรถมองว่า การพัฒนาประเทศให้เป็นประชาธิปไตยนั้น พรรคการมืองต้องทำควบคู่กับข้าราชการประจำที่มีลักษณะเหมือนพรรคการเมืองในตัวเอง เพราะหากขัาราชการไม่ร่วมมือก็ไม่สามารถดำเนินการอะไรได้อย่างเต็มที่ พร้อมเสนอว่าทุกพรรคการเมืองต้องยอมรับผลการเลือกตั้ง ไม่เปิดทางให้มีการรัฐประหารเกิดขึ้นอีก
'ไพบูลย์' จุดยืนหนักแน่น พร้อมหนุน 'ประยุทธ์' นั่งนายกฯต่อ
ด้านนายไพบูลย์ นิติตะวัน ว่าที่หัวหน้าพรรคพรรคประชาชนปฏิรูป กล่าวว่า พรรคการเมืองเก่าล้วนเป็นของนายทุน ใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือ โดยพรรคของนายไพบูลย์ จะทำให้เป็นตัวอย่างให้พรรคอื่นๆ ดูว่าการมีประชาธิปไตยภายในพรรคเป็นอย่างไร ซึ่งนอกจากต้องทำตามที่กฎหมายพรรคการเมืองกำหนดแล้ว ยังต้องกำหนดในข้อบังคับพรรคให้สมาชิกมีบทบาท โดยตรงทุกระดับให้เป็นวัฒนธรรมของพรรคเป็นประชาธิปไตยทางตรง ไม่ใช่แค่มีส่วนร่วมเพียงเล็กๆน้อยๆเท่านั้น ซึ่งพรรคนี้หากใครได้เป็น ส.ส.ต้องบริจาคเงินเดือน 50%ให้พรรคด้วย
นายไพบูลย์ ยืนยันว่าการรัฐประหารเป็นผลผลิตหรือเกิดขึ้นได้เพราะนักการเมืองลุแก่อำนาจ ดังนั้นหากไม่อยากให้เกิดการรัฐประหาร นักการเมืองและพรรคการเมืองก็อย่าลุแก่อำนาจ พร้อมย้ำว่าจะสนับสนุนพลเอกประยุทธ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะเข้าเงื่อนไขเป็นผู้มีความสามารถและซื่อสัตย์ที่พรรคได้กำหนดมาตรฐานไว้
'รปช.' น้อมนำ 'ศาสตร์พระราชา' บริหารประเทศ
ขณะที่นายประสาร มฤคพิทักษ์ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ระบุว่า พรรคการเมืองบางพรรคมีเถ้าแก่ ลักษณะเหมือนบริษัท เอาเงินเป็นตัวตั้งและ ส.ส.อยู่ใต้ระบบอุปถัมภ์ ส่วน รปช.เกิดจากคุณูปการของประชาชนที่ชุมนุมยืดเยื้อนาน 204 วันตายไป 24 คน บาดเจ็บอีกนับพัน โดยเชื่อว่าการปฏิรูปต้องเริ่มจากตัวเอง
โดย รปช. จะให้ประชาชนเป็นเจ้าของ เปิดสมัชชาทั่วประเทศเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคโดยตรง และเลือกหัวหน้ากับเลขาธิการพรรคล่วงหน้าอีก 2 คนควบคู่ไว้ด้วย มีวาระดำรงตำแหน่งคราวละ 2 ปี โดยยืนนันว่า รปช.ไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจแต่จะใช้แนวทางศาสตร์พระราชานำพาประเทศเพื่อความยั่งยืน
'บวรศักดิ์' ชูปฏิรูปกฎหมายจัดสรรผลประโยชน์ให้สังคม
ขณะที่ ศาสตราจารย์กิตติคุณ บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมาย ปาฐกถา วาระ 20 ปีสถาบันพระปกเกล้า เรื่อง การปฏิรูปกฎหมายกับสังคมไทยในอนาคต ระบุว่า กฎหมายเป็นเครื่องมือควบคุมสังคมและยุติข้อพิพาท รวมถึงจัดสรรผลประโยชน์ให้คนในสังคม ผ่านการกำหนดและคุ้มครองสิทธิ์ โดยการปฏิรูปสังคมทุกด้านต้องทำผ่านกฎหมาย ซึ่งไทยมีปัญหา 3 ประเด็นหลัก คือ 1) การรวมศูนย์อำนาจ 2)ยุทธศาสตร์การพัฒนาที่มุ่งส่งเสริมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ นำสู่ความขัดแย้งในสังคม 3) การเติบโตทางเศรษฐกิจไม่ถึง 3 %ต่อปี ต่ำที่สุดในอาเซียนและยังมีความเหลื่อมล้ำทางรายได้ ดังนั้นการไปสู่เป้าหมายในอนาคต ต้องกระจายอำนาจ มีกฎหมายที่ดีและเท่าที่จำเป็น