ไม่พบผลการค้นหา
'นครบาล' ออกเอกสารชี้แจงกรณีการจับกุม อานนท์ - ภาณุพงศ์ แกนนำชุมนุมทางการเมือง ยันทำตามกฎหมาย คำนึงถึงสิทธิขั้นพื้นฐาน

กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ออกเอกสารชี้แจงกรณีการจับกุม อานนท์ นำภา และ ภาณุพงศ์ จาดนอก 2 แกนนำจัดกิจกรรมชุมนุมทางการเมือง โดยมีเนื้อหาดังนี้

ด้วยเมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2563 กลุ่มแกนนำกิจกรรมได้ดำเนินการจัดกิจกรรมร่วมกับกลุ่มบุคคลเพื่อเรียกร้องในประเด็นต่างๆ บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งการจัดกิจกรรมดังกล่าวเป็นการกระทำผิดกฎหมายอาญาและยังเป็นการฝ่าฝืน พรก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2558 จึงได้มีการแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สน.สำราญราษฎร์

บช.น.จึงตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน เพื่อให้การดำเนินคดีเป็นไปตามกรอบกฎหมาย บริสุทธิ์ ยุติธรรม โปร่งใส ตรวจสอบได้ จากการรวบรวมพยานหลักฐานและการพิจารณาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ปรากฏหลักฐานตามสมควรว่ากลุ่มแกนนำจากกิจกรรมดังกล่าวได้กระทำความผิดอาญาและเป็นกรณีที่จะขออนุมัติศาลออกหมายจับได้ และในวันนี้ 7 ส.ค. 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้จับกุมตัวแกนนำจัดกิจกรรม จำนวน 2 ราย ดังต่อไปนี้

นายภาณุพงศ์ จาดนอก และนายอานนท์ นำภา แกนนำจัดกิจกรรมเมื่อวันที่ 18 ก.ค.63 โดยเป็นการจับกุมตามหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 6 ส.ค.63 ในข้อหา

  • ร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชน เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนฯ
  • ร่วมกันมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองฯ
  • ร่วมกันจัดให้มีกิจกรรมซึ่งมีผู้เข้าร่วมจำนวนมากในลักษณะมั่วสุมหรือมีโอกาสติดต่อสัมผัสกันง่าย หรือกระทำการดังกล่าวอันเป็นการยุยงให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย หรือในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรคฯ
  • ร่วมกันกีดขวางทางสาธารณะ จนอาจเป็นอุปสรรคต่อความปลอดภัยหรือความสะดวกในการจราจรฯ
  • ร่วมกันวาง ตั้ง ยื่นหรือแขวนสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือกระทำด้วยประการใด ๆ ในลักษณะที่เป็นการกีดขวางการจราจรฯ
  • ร่วมกันตั้ง วาง หรือกองวัตถุใด ๆ บนถนนฯ
  • ร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ฯ

บช.น. ขอเรียนให้ทราบว่า การดำเนินคดีและการจับกุมแกนนำจัดกิจกรรมทั้ง 2 รายดังกล่าว เป็นการดำเนินการตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาและกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด โดยคำนึงถึงสิทธิขั้นพื้นฐานตามกฎหมายของผู้ถูกจับกุม ได้ให้แพทย์ตรวจร่างกายก่อนทำการสอบสวน พนักงานสอบสวนได้แจ้งสิทธิตามกฎหมาย และจะปฏิบัติตามระเบียบการควบคุมตัว ตลอดจนการฝากขังต่อศาล