Trending Now 21 กุมภาพันธ์ 2561
Samsung เผยคอนเซ็ปต์ผลิตโดรนควบคุมด้วยตา
LetsGoDigital เว็บไซต์เทคโนโลยีต่างประเทศ รายงานว่า ซัมซุงเตรียมจดสิทธิบัตรพัฒนาโดรนของตนเอง โดยเผยแนวคิดการออกแบบโดรนที่มีหน้าจอในตัว พร้อมคุณสมบัติตรวจจับใบหน้าและดวงตาของแต่ละบุคคลคล้ายกับการใช้มือและการตรวจจับวัตถุเพื่อควบคุมโดรน สิทธิบัตรนี้เผยภาพโดรนที่มีหน้าจออยู่ตรงกลาง และมีใบพัด 4 ใบในแต่ละมุม โดยในสิทธิบัตรอธิบายว่าโดรนสามารถถ่ายภาพและส่งข้อมูลไปยังแผงควบคุมหลักได้พร้อมกัน และยังสามารถตรวจจับดวงตา หัว มือ หรือนิ้วมือของผู้ใช้งานได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งผู้ใช้งานสามารถควบคุมการบินของโดรนได้ง่าย ๆ เพียงขยับอวัยวะเหล่านั้น
โดรนรุ่นนี้ คาดว่าจะมาพร้อมกับเซนเซอร์รักษาการทรงตัว เซนเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว ระบบสั่นแจ้งเตือน และระบบมาตรวัดความเร็ว ซึ่งซัมซุงไม่ได้เป็นเจ้าเดียวที่กำลังพัฒนาโดรน เพราะทางแอมะซอนก็ได้จดสิทธิบัตรคอนเซ็ปต์โดรนขนส่งสินค้าที่สามารถทำลายตัวเองได้ในกรณีที่เกิดข้อผิดพลาดระหว่างการขนส่งสินค้า เพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อผู้คนที่อยู่พื้นด้านล่าง ซึ่งคอนเซ็ปต์โดรนของแอมะซอนนี้ได้จดสิทธิบัตรไปเมื่อปีที่แล้วเช่นกัน เทคโนโลยีโดรนในปัจจุบันพัฒนาล้ำขึ้นไปเรื่อย ๆ ซึ่งเว็บไซต์เทคโนโลยีต่างประเทศ คาดการณ์ว่าในอนาคต เราอาจจะเห็นโดรนมาบินรอบตัว พร้อมปล่อยโฆษณาใส่กลุ่มเป้าหมายแบบตรง ๆ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริง คงเป็นเรื่องที่น่ากลัวไม่น้อยเลยล่ะครับ
Samsung เปิดตัวไดรฟ์ความจุ 30 TB ตัวแรก
มาอัปเดตอีกหนึ่งข่าวของซัมซุง ซัมซุงเปิดตัวไดรฟ์เก็บข้อมูลที่มีความจุถึง 30 เทเลไบต์ หรือประมาณ 30,000 กิกกะไบต์ เทียบได้กับไอโฟน 256 กิกกะไบต์จำนวน 120 เครื่อง ซึ่งไดรฟ์ของซัมซุงรุ่นนี้มีชื่อว่า PM1643 ผลิตขึ้นมาเพื่อรองรับการเก็บข้อมูลในระบบของรัฐบาล สาธารณสุข หรือภาคการศึกษา ในอนาคต ซึ่งไดรฟ์รุ่นนี้ถือเป็นไดรฟ์ที่มีความจุขนาดใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมการผลิตไดรฟ์
ก่อนหน้านี้ ซัมซุงเคยเปิดตัวไดรฟ์ที่มีขนาด 15 เทเลไบต์ไปเมื่อปี 2016 ซึ่งไดรฟ์ในเวอร์ชันนี้สามารถอ่านข้อมูลได้ที่ความเร็วสูงสุดถึง 2,100 เมกะบิตต่อวินาที และเขียนข้อมูลได้ที่ความเร็ว 1,700 เมกะบิตต่อวินาที โดยซัมซุงเริ่มผลิตไดรฟ์รุ่นนี้ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา และวางแผนที่จะวางจำหน่ายในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งซัมซุงยังไม่ออกมาประกาศราคาที่ชัดเจน แต่คาดว่าราคาน่าจะแพงเอาเรื่องเลยล่ะครับ
เปิดตัวแอปฯ 'Google Pay' ตอบโจทย์สังคมไร้เงินสด
กูเกิลเปิดตัวแอปพลิเคชัน 'กูเกิลเพย์' บริการชำระเงินที่รวมเอา 'Google Wallet' และ 'Android Pay' เข้าไว้ด้วยกัน โดยแอปพลิเคชันนี้แบ่งเป็นสองส่วนคือ แท็บ 'โฮม' ที่จะแสดงผลจำนวนเงินและกิจกรรมล่าสุด สถานที่ใกล้เคียง ข้อเสนอพิเศษจากร้านค้า และข้อมูลอื่น ๆ โดยออกแบบหน้าตาอินเตอร์เฟซให้เป็นสไตล์กูเกิล-การ์ด โดยอีกส่วนของแอปพลิเคชัน คือแท็บ 'การ์ด' ที่จะแสดงข้อมูลบัตรเครดิตของผู้ใช้ทั้งหมด รวมถึงบัตรกำนัล และบัตรของขวัญอีกด้วย ซึ่งกูเกิลวางแผนให้กูเกิลเพย์สามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์ทุกอย่างของกูเกิล รวมทั้งรองรับการทำงานร่วมกับกูเกิลโครมและกูเกิลแอซซิสแทนต์อีกด้วย
ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อข้อมูลการจ่ายเงินที่ได้ลงทะเบียนในแอปพลิเคชันกูเกิลเพย์ และสามารถใช้จ่ายได้ในอีกหลากหลายช่องทาง ทั้งการซื้อบริการผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟนแอนดรอยด์ หรือจ่ายเงินผ่านเว็บไซต์เมื่อใช้งานกูเกิลโครมก็ทำได้เช่นกัน นอกจากนี้ กูเกิลเพย์ยังสามารถใช้ชำระค่าเดินทางในระบบขนส่งสาธารณะได้หลายเมืองในบางประเทศ เช่น ลอนดอน ประเทศอังกฤษ และพอร์ตแลนด์ ในอเมริกา โดยกูเกิลยังได้เพิ่มฟีเจอร์การโอนเงินโดยตรงระหว่างบุคคลโดยไม่เสียค่าธรรมเนียม คล้ายกับระบบ Venmo ของ Paypal ที่เคยเปิดให้บริการไปแล้ว ปัจจุบันแอปพลิเคชัน 'กูเกิลเพย์' เปิดให้บริการแค่ในสหรัฐฯ และอังกฤษเท่านั้น คาดว่ากูเกิลจะพัฒนาแอปพลิเคชันดังกล่าว และปรับดีไซน์ให้เหมาะสม ก่อนจะขยายการให้บริการต่อไป