แอปเปิลปรับตัวครั้งใหญ่ เตรียมลดการผลิตไอโฟนรุ่นใหม่ลงกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ แก้ปัญหาสินค้าค้างสต็อกและยอดขายตกต่ำ
สำนักข่าว RT ของรัสเซีย รายงานอ้างอิงจากนิกเกอิ สื่อท้องถิ่นญี่ปุ่น ระบุว่าปีนี้ การเปิดตัวไอโฟนรุ่นใหม่ของบริษัทแอปเปิลจะมีความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในเรื่องของปริมาณ โดยบริษัทแอปเปิลมีแผนจะทำการส่งสินค้าออกสู่ตลาดในจำนวนที่น้อยลงถึง 20 เปอร์เซ็นต์ โดยรายงานดังกล่าวระบุว่า แอปเปิลได้ขอให้ซัปพลายเออร์ผู้ผลิตชิ้นส่วนไอโฟน ลดการผลิตลง 20 เปอร์เซ็นต์ สำหรับการผลิตไอโฟน 3 รุ่นใหม่ที่กำลังจะออกมาในช่วงปลายปี 2018
ทั้งนี้ ข่าวที่ออกมาส่งผลให้หุ้นของบริษัทแอปเปิลปรับตัวลงทันที 2 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ บริษัทผู้ผลิตชิ้นส่วนไอโฟนอย่าง AMS และ Dialog Semi ก็ปรับตัวลดลงเช่นกันที่ 6 เปอร์เซ็นต์ และ 4.1 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ
นายเจมส์ คอร์ดเวลส์ นักวิเคราะห์จาก Atlantic Equities ให้เหตุผลว่า การที่แอปเปิลลดจำนวนการผลิตลง 20 เปอร์เซ็นต์ อาจมีสาเหตุมาจากความมั่นใจที่สูงเกินไป ว่าไอโฟน 10 ที่เปิดตัวออกมาในราคาที่สูงกว่าไอโฟนทุกรุ่นจะขายดี แต่กลับส่งผลให้สินค้าค้างสต็อกและยอดขายซบเซาในช่วงต้นปีที่ผ่านมา
ข้อเท็จจริงอีกประการหนึ่งก็คือ ความแตกต่างและการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ในไอโฟนแต่ละรุ่นเริ่มลดลง แอปเปิลจึงต้องการปรับกลยุทธ์ให้บริษัทไม่สูญเสียกำไรและรายได้มากนัก เพราะผู้บริโภคมีแนวโน้มจะซื้อสินค้าแอปเปิลน้อยลง เพราะราคากับความคุ้มค่าที่สวนทางกัน อย่างไรก็ตาม แม้ว่ายอดขายไอโฟน 10 จะไม่น่าพอใจเท่าไร แต่ผลประกอบการโดยรวมของบริษัทกลับเติบโตขึ้นมาก จนในขณะนี้มูลค่าใกล้แตะ 1 ล้านล้านดอลลาร์แล้ว โดยมีบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซอย่าง 'แอมะซอน' ตามมาติด ๆ
ล่าสุด เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา มีรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ประจำปี 2018 ที่สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 31 มีนาคม ชี้ว่า บริษัทแอปเปิลมีรายได้ทั้งสิ้น 61,137 ล้านดอลลาร์ เพิ่มจากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว 16 เปอร์เซ็นต์