'อิลอน มัสก์' ชี้มนุษย์จำเป็นจะต้องครอบครองดาวอังคารให้ได้โดยเร็ว เพื่อความอยู่รอดของเผ่าพันธุ์ หากเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ขึ้นในอนาคต
นายอิลอนมัสก์ ผู้ก่อตั้งและพัฒนา Tesla และ SpaceX ประกาศบนเวทีของงานเทศกาลและงานประชุมสัมมนาระดับโลกด้านเทคโนโลยีการสื่อสาร ภาพยนตร์ และเพลง South by Southwest (SXSW) ว่ามนุษย์จำเป็นจะต้องยึดครองพื้นที่ของดาวอังคารให้ได้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อความอยู่รอดของเผ่าพันธุ์มนุษย์ หากว่าสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศต่างๆนั้นทวีความรุนแรงมากขึ้นไปจนถึงขั้นเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ขึ้นในอนาคต
อิลอนมัสก์มองว่ามีความเป็นไปได้สูงกว่ามากที่มนุษย์จะสามารถไปใช้ชีวิตอยู่บนดาวอังคาร แทนการย้ายไปอยู่บนดวงจันทร์ และที่สำคัญระยะทางอันยาวไกลค���ออุปสรรคที่ใหญ่หลวง ฉะนั้นการพัฒนาเทคโนโลยีเคลื่อนย้ายมนุษย์ไปยังดาวอังคารจะต้องเกิดขึ้นเร็วที่สุดเพื่อที่ว่าจะสามารถเตรียมการได้ทันหากมีสงครามครั้งใหม่เกิดขึ้นจริง และเมื่อสงครามจบลงมนุษย์ที่เหลือรอดและย้ายไปยังดาวอังคารได้ทัน จะสามารถเดินทางกลับมายังโลกได้โดยไม่ต้องทิ้งช่วงเวลาให้เกิดยุคมืด หรือ Dark Age ยาวนานเกินไป
การประกาศกร้าวถึงแผนการย้ายถิ่นฐานมนุษย์ของนายอิลอน มัสก์ มีขึ้นทันทีหลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯได้ยืนยันว่าจะมีการพบกันระหว่างนายทรัมป์ และนายคิมจองอึน ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือภายในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งหลายฝ่ายกังวลว่านายทรัมป์มองโลกในแง่ดีเกินไปหรือไม่ว่าการไปพบนายคิมจองอึนจะสร้างผลลัพธ์ที่ดีให้เกิดขึ้นได้ เพราะหากเกิดความผิดพลาดขึ้นมา ความสัมพันธ์ระหว่างทั้ง 2 ประเทศอาจเลวร้ายลงมากกว่าเดิม
ขณะนี้บริษัท SpaceX ของนายอิลอน มัสก์ กำลังเร่งพัฒนายานพาหนะขนาดใหญ่ที่เรียกว่า BFR ยาว 100 เมตรเพื่อเตรียมขนส่งมนุษย์ไปยังดาวอังคารตามแผนที่วางไว้ แต่สิ่งสำคัญกว่านั้นคือการที่จะไปสร้างแหล่งที่อยู่บนดาวเคราะห์ดวงใหม่ นายมัสก์ยังจะต้องเผชิญกับความท้าทายในการหาแหล่งทรัพยากรเพื่อความอยู่รอดของมนุษย์ที่ถูกเคลื่อนย้ายขึ้นไปบนดาวอังคารด้วย
อย่างไรก็ตามนายมัสก์ยืนยันว่า จรวด BFR จะสามารถทดสอบการบินครั้งแรกได้ภายในสิ้นปีหน้า โดยก่อนหน้านี้ในงาน International Astronautical Congress 2017 ที่ออสเตรเลียเมื่อปลายปี 2017 อิลอน มัสก์ กล่าวว่าจรวดรุ่น BFR ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานได้ทั้งการเดินทางจากโลกสู่ดาวดวงอื่น รวมถึงการเดินทางเหมือนเครื่องบินจากเมืองหนึ่งสู่เมืองหนึ่งได้อีกด้วย โดยมีศักยภาพในการบรรทุกของได้ถึง 150 ตัน ขณะที่จรวด Falcon Heavy นั้นบรรทุกน้ำหนักได้เพียง 30 ตัน และสามารถเดินทางจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งของโลกได้ภายใน 60 นาที