ฟูอัท ออกเทย์ รองประธานาธิบดีตุรกี ระบุเมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า มีผู้ต้องสงสัยแล้วกว่า 113 ราย ที่ถูกจับกุมตัว หลังจากสืบทราบพบว่าผู้ต้องสงสัยทั้งหมด มีส่วนเกี่ยวข้องกับอาคารที่ถล่มลงกว่าหลายพันหลังในพื้นที่ 10 จังหวัดของตุรเคีย สืบเนื่องจากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันจันทร์ก่อน (6 ก.พ.)
“มีการออกคำสั่งคุมตัว 113 คนในจำนวนนี้” ออกเทย์กล่าวกับผู้สื่อข่าวในการบรรยายสรุป “เราจะติดตามเรื่องนี้อย่างรอบคอบ จนกว่ากระบวนการยุติธรรมที่จำเป็นจะสิ้นสุดลง โดยเฉพาะอาคารที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก และอาคารที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ”
ในขณะเดียวกัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมของตุรเคียได้สัญญาว่า ทางการจะลงโทษใครก็ตามที่มีส่วนรับผิดชอบต่อความเสียหายทั้งหมด นอกจากนี้ อัยการของตุรเคียได้เริ่มรวบรวมหลักฐานจากตัวอย่างอาคาร เพื่อหาหลักฐานเกี่ยวกับวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างอาคารที่ถล่มลง
แม้ว่าเหตุแผ่นดินไหวที่กิดขึ้นในครั้งนี้ ณ ตุรเคียและซีเรีย จะมีความรุนแรงมากเป็นพิเศษกว่าครั้งใดๆ แต่เหยื่อ ผู้เชี่ยวชาญ และประชาชนทั่วตุรเคียต่างออกมากล่าวโทษว่า การก่อสร้างตัวอาคารที่ย่ำแย่เป็นต้นเหตุของความเสียหายที่เลวร้ายมากขึ้นไปกว่าเดิมในครั้งนี้
มูรัต คูรุม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมตุรเคียกล่าวว่า จากการประเมินอาคารมากกว่า 170,000 หลัง มีโครงสร้างของอาคารจำนวน 24,921 หลังทั่วภูมิภาคที่พังทลายหรือได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยในตอนนี้ หน่วยกู้ภัยยังคงมองหาผู้รอดชีวิตในซากปรักหักพัง นับตั้งแต่ 6 วันหลังจากเกิดภัยพิบัติ ซึ่งเกิดขึ้นในพื้นที่บางส่วนของซีเรียและตุรเคีย จนส่งผลให้มียอดผู้เสียชีวิตจากทั้ง 2 ชาติทะลุ 33,000 รายแล้ว และคาดว่าจะมีเพิ่มขึ้นอีก
ในทางตรงกันข้าม พรรคฝ่ายค้านกล่าวหารัฐบาลของ เรเจป ทายยิป เออร์โดอัน ประธานาธิบดีตุรเคียว่าไม่บังคับใช้กฎข้อบังคับเกี่ยวกับอาคาร และรัฐบาลทำการจัดเก็บภาษีพิเศษอย่างไม่ถูกต้อง นับตั้งแต่หลังจากเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ในตุรเคียครั้งล่าสุดเมื่อปี 2542 เพื่อที่จะบังคับให้มีการก่อสร้างและปรับปรุงอาคาร ซึ่งสามารถต้านทานแผ่นดินไหวได้มากขึ้น
สำนักข่าวอนาโดลูของรัฐบาลตุรเคียรายงานว่า อัยการของรัฐในเมืองอาดานาสั่งให้มีการจับกุมผู้ต้องสงสัย 62 ราย หลังจากการสอบสวนกรณีอาคารที่ถล่ม ในขณะที่อัยการพยายามจับกุมคน 33 รายในดิยาร์บากีร์ด้วยเหตุผลเดียวกัน รายงานยังระบุอีกว่า มีผู้ถูกจับกุม 8 รายในเมืองซานลิอูร์ฟา และอีก 4 รายในเมืองออสมานิเย ซึ่งทุกคนเกี่ยวข้องกับอาคารที่ถล่มลง ซึ่งเชื่อว่าเกิดขึ้นจากข้อบกพร่อง อาทิ เสาที่ถูกรื้อออก
เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แห่งหนึ่ง ซึ่งพังถล่มในพื้นที่อันทักยา ขณะเขากำลังอยู่ในสนามบินอิสตันบูล เพื่อเตรียมขึ้นเครื่องบินไปมอนเตเนโกรในเย็นวันศุกร์ (10 ก.พ.) ก่อนที่เขาถูกจับกุมอย่างเป็นทางการเมื่อวันเสาร์ (11 ก.พ.) โดยอาคารพักอาศัยสูง 12 ชั้นสุดหรูสร้างเสร็จเมื่อทศวรรษที่แล้วและประกอบด้วยห้องชุดจำนวน 249 ห้อง อย่างไรก็ดี ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับการบาดเจ็บและเสียชีวิตที่เกิดขึ้นในอาคารดังกล่าว
สำนักข่าวอนาโดลูรายงานว่า ชายผู้ถูกจับกุมตัวระบุกับอัยการว่า เขาไม่รู้ว่าทำไมตึกถึงถล่มลง และความต้องการของเขาในการเดินทางไปมอนเตเนโกร ก็ไม่เกี่ยวข้องกันกับเหตุอาคารถล่มหลังแผ่นดินไหว “เราปฏิบัติตามขั้นตอนทั้งหมดที่กำหนดไว้ในกฎหมาย” อนาโดลูอ้างคำกล่าวของนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ผู้ถูกจับกุมตัว “มันได้รับใบอนุญาตทั้งหมดแล้ว”
เออร์โดกันออกมายอมรับในก่อนหน้านี้ว่า ทางการตุรเคียและเจ้าหน้าที่กู้ภัยประสบกับปัญหาในการช่วยชีวิตผู้ติดอยู่ภายใต้ซากอาคารถล่ม นอกจากนี้ ประธานาธิบดีตุรเคียกล่าวว่าพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 500 กิโลเมตร และเป็นที่อยู่อาศัยของประชาชน 13.5 ล้านคน
ที่มา: