หน่วยงานจัดการภัยพิบัติตุรเคีย (AFAD) ระบุว่า แผ่นดินไหวครั้งล่าสุดนี้มีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองเยซิลเยิร์ต ในจังหวัดมาลัตยาของตุรเคีย ก่อนกล่าวเสริมว่ามีผู้เสียชีวิต 1 คน จากเหตุตัวอาคารของโรงงานพังถล่มในพื้นที่คาห์รามานมาราส ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวขนาด 7.8 ริกเตอร์ ที่สร้างผลกระทบรุนแรงต่อภูมิภาคนี้เมื่อช่วงต้นเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 69 คนจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งล่าสุด
มาห์เมต ซินาร์ นายกเทศมนตรีเมืองเยซิลเยิร์ต ระบุกับสถานีโทรทัศน์ฮาเบอร์เติร์กว่า อาคารหลายแห่งในเมืองพังถล่ม รวมถึงอาคาร 4 ชั้นที่พ่อและลูกสาวคู่หนึ่งติดอยู่ภายใน โดยซินาร์กล่าวว่าทั้งคู่เข้าไปในตัวอาคารที่ได้รับความเสียหายเพื่อเก็บข้าวของ ทั้งนี้ ภาพโทรทัศน์แสดงให้เห็นว่าชายผู้เป็นพ่อถูกเปลหามเข้าไปในรถพยาบาล ในขณะที่ทีมกู้ภัยกำลังพยายามติดต่อกับลูกสาวของเขาในอาคารที่เสียหาย
องค์การสหประชาชาติระบุว่า มีประชาชนทางตอนใต้ของตุรกีอย่างน้อย 1.5 ล้านคนต้องไร้ที่อยู่อาศัย โดยมีบ้านมากกว่า 500,000 หลังที่ต้องเร่งการสร้างขึ้นมาใหม่ นอกจากนี้ AFAD รายงานว่า นับตั้งแต่หลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา ตุรเคียพบรายงานการเกิดเหตุอาฟเตอร์ช็อกแล้วกว่า 10,000 ครั้ง
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทางการตุรกีรายงานว่า มีประชาชนประมาณ 865,000 คนต้องอาศัยอยู่ในกระโจม และ 23,500 คนต้องอยู่ในบ้านที่สร้างจากตู้คอนเทนเนอร์ ในขณะที่มีประชาชนอีก 376,000 คนอาศัยอยู่ในหอพักนักศึกษาและบ้านพักรับรองสาธารณะนอกเขตแผ่นดินไหว
แผ่นดินไหวครั้งล่าสุดนี้เกิดขึ้นไม่กี่วัน หลังจากตุรเคียเริ่มปฏิบัติการย้ายผู้คนที่อาศัยอยู่ในกระโจมไปยังเมืองที่ตั้งตู้คอนเทนเนอร์รองรับเอาไว้ โดยระยะแรกนั้น ทางการตุรเคียกำหนดให้มีการเคลื่อนย้ายผู้คนเข้าไปในตู้คอนเทนเนอร์จำนวนกว่า 15,000 ตู้
ปัจจุบันนี้ ทางการตุรเคียได้ขยายการสอบสวนทางอาญา แก่ยังบุคคลที่รับผิดชอบในการสร้างอาคารที่ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหว ซึ่งส่งผลให้ประชาชนหลายล้านคนตกอยู่ในภาวะไม่มีที่อยู่อาศัย อย่างไรก็ดี รัฐบาลตุรเคียถูกกล่าวหาว่าหละหลวมในการบังคับใช้กฎหมายด้านความปลอดภัยของอาคารก่อนเกิดแผ่นดินไหวขึ้น
ที่มา: