วันที่ 11 ก.ย. 2565 ที่ จ.เชียงใหม่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงประเมินสถานการณ์การยุบสภาฯของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ว่า เชื่อว่า 80% รัฐบาลอยู่ไม่ครบวาระ 4 ปี และจะยุบสภา เพราะไม่ว่าผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ชี้กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม จะดำรงตำแหน่งครบ 8 ปีหรือไม่นั้น จะมีผลออกมาอย่างไร จะอยู่ต่อไปหรือไม่อยู่ต่อไป ตนเชื่อว่าโอกาสยุบสภาฯสูงมากหลังเอเปค 2022 จึงต้องเตรียมการเลือกตั้ง ทั้งนี้ขอขอบคุณประชาชนที่สะท้อนผ่านโพลสำรวจความคิดเห็นของสื่อมวลชนว่าพรรคเพื่อไทยพร้อมที่สุดในการเลือกตั้ง
ส่วนจะมีเหตุอะไรในการยุบสภาฯนั้น เราเชื่อว่าผู้มีอำนาจจะตัดสินใจยุบสภา เพื่อประโยชน์ของตัวเอง ถ้าอยู่ครบเทอมไม่ได้ประโยชน์ ยิ่งอยู่นานยิ่งแย่ศรัทธาประชาชนเสื่อมไปเรื่อยๆ อีกทั้งเพื่อให้มีรูหายใจ เมื่อได้ประโยชน์หลังเอเปค 2022 ก็สามารถจัดการเรื่อง ส.ส.ย้ายพรรคได้ เพราะสามารถให้ส.ส.ย้ายพรรคได้ใน 30 วัน ซึ่ง ส.ส.สามารถอยู่ในตำแหน่ง ส.ส.ในวันยุบสภาฯ ได้ พอยุบบสภาฯ ก็ย้ายพรรคได้ทันที แต่ถ้าครบเทอมต้องหาพรรคการเมืองสังกัดใหม่ภายใน 90 วัน
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เงื่อนไขยุบสภาฯต้องจะต้องจัดการเลือกตั้งไม่น้อย 45-60 วัน ดังนั้นการยุบสภาเพื่อลดกระแสคัดค้านพี่น้องประชาชนไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะพ้นตำแหน่งหรือไม่ก็ตาม
ส่วนร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ที่เพิ่งถูกที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาโหวตคว่ำ 4 ฉบับเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ถามว่าจะทำอย่างไรต่อไปนั้น เรื่องแรกจะคิดแก้ไขใหม่ในสมัยประชุมหน้าก็คงไม่คิดแล้ว เพราะ ส.ว.พูดไว้ก็ยากมาก วิธีการเขียนกฎหมายใช้เสียงข้างน้อยปกครองเสียงข้างมาก 600 เสียงเห็นชอบ แต่ 84 ส.ว.ไม่เห็นชอบ มันขัดต่อหลักการประชาธิปไตย ก็คงไม่เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในสมัยต่อไป จึงจะเสนอเป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทยในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อจัดทำฉบับใหม่ด้วยพี่น้องประชาชน
‘ชลน่าน’ ย้ำ‘เพื่อไทย’ ไม่จับมือพรรคนั่งร้าน ‘ระบอบประยุทธ์’
นพ.ชลน่าน ยังระบุถึงการประกาศพรรคการเมือง 2 แบบที่เป็นศัตรูของพรรคเพื่อไทยในงานครอบครัวเพื่อไทย 'สะบัดชัย เพื่อไทยมาเหนือ' ที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 10 ก.ย. ที่ผ่านมา ว่า พรรคการเมืองที่มาแอบอ้างว่าเป็นพรรคพี่พรรคน้องกับพรรคเพื่อไทยนั้นในการหาเสียงเลือกตั้งทำให้พี่น้องประชาชนสับสนไม่ว่าจะในพื้นที่ภาคเหนือหรือภาคอีสาน พรรคเพื่อไทยประกาศต่อประชาชนไปแล้วว่ามีแต่เพียงพรรคเพื่อไทยเท่านั้น ดังนั้น ต้องเลือกพรรคเพื่อไทยให้ชนะขาดเพื่อป้องกันความสับสนก่อนการเลือกตั้ง พรรคการเมืองชัดเจนก่อนการเลือกตั้งที่ประกาศมาตลอดคือพรรคที่สนับสนุนเผด็จการ คือพรรคที่เสมือนกับเป็นนั่งร้านให้กับระบอบประยุทธ์ ส่วนหลังจากการเลือกตั้งแล้วจะมีทิศทางอย่างไรนั้นสิ่งที่เราพูดไปก่อนการเลือกตั้งนั้นก็จะเป็นเงื่อนไข
เมื่อถามว่าพอจะเปิดเผยชื่อพรรคการเมืองที่เป็นพรรคพี่พรรคน้องกับพรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ระบุว่า ตนขออนุญาตไม่พูดชื่อพรรคการเมืองนั้น เพราะจะเกิดความเสียหาย แต่พฤติกรรมนั้นในพื้นที่ถ้าพรรคการเมืองไหนไปแอบอ้างก็คือพรรคนั้น หลายพรรคการเมืองในพื้นที่อีสานที่การแอบอ้าง ทำให้พรรคเพื่อไทยต้องออกมาตรการตัดสินใจว่าจะทำอย่างไร เพราะจะทำให้เป็นเงื่อนไขพรรคพี่พรรคน้องกันกับพรรคเพื่อไทย ตนยืนยันมีพรรคการเมืองแอบอ้างมากกว่า 1 พรรค ส่วนพรรคที่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจของ คสช. พรรคเพื่อไทยรับไม่ได้และยากที่จะคุยกันได้
ถามว่า พรรคภูมิใจไทยสนับสนุนเผด็จการมีโอกาสจะจับมือกับพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่ เพราะล่าสุดพรรคภูมิใจไทยบอกไม่อยากจับมือกับเผด็จการ นพ.ชลน่าน ระบุว่า บอกไปแล้วว่าไม่อยากระบุชื่อพรรคการเมือง แต่ได้เพียงภาพใหญ่ๆ เท่านั้น โดยหลักการคือในอนาคตถ้าผ่านการเลือกตั้งมา ประชาชนให้ความไว้วางใจแล้วมีประเด็นแนวทางที่คุยได้ถึงวิธีการทำงานและอุดมการณ์ ก็ต้องมาพิจารณาอีกเฉพาะเรื่องใหญ่ ถ้าชัดเจนว่าเป็นพรรคสนับสนุนเผด็จการแล้วมีวิธีการที่รับไม่ได้ก็จะเป็นเงื่อนไขที่พรรคเพื่อไทยต้องพูดไว้ก่อน
“มีหลายพรรคแอบอ้างว่าเป็นเครือข่ายของพรรคเพื่อไทย ส่วนจะร่วมมือกันหลังเลือกตั้งได้หรือไม่ต้องดูเงื่อนไขกันอีกครั้ง แต่ก็ไม่เลวร้ายเท่าพรรคการเมืองที่สนับสนุนเผด็จการ แต่อาจดูไม่รุนแรงเท่า ถ้าจะแอบอ้างพรรคเพื่อไทยก็ต้องดูว่ามีส่วนทำลายพรรคเพื่อไทยด้วยหรือไม่ เพราะมีการเล่นประเด็นจะยุบพรรคเพื่อไทยด้วย” นพ.ชลน่าน กล่าว