วันที่ 24 ต.ค. 2565 ที่ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย ประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นการจับมือระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคพลังประชารัฐ หากพรรคพลังประชารัฐ ไม่ส่ง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม หากส่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประขารัฐ เป็นแคนดิเดตนายกฯ โดย นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ในหลักการพรรคเพื่อไทยโดยความเคารพประชาชน จะจับมือกับพรรคใดก่อนเลือกตั้ง โดยถือประชาชนเป็นที่ตั้ง ถ้าไป ทำอย่างนั้นถือว่าไม่เคารพประชาชน ส่วนหลังเลือกตั้งแล้ว ผลการเลือกตั้งจะออกมาอย่างไรเมื่อประชาชนมอบความไว้วางใจให้กับพรรคเพื่อไทยซึ่งก็เชื่อว่าถ้าแลนด์สไลด์ ส.ส. 250 เสียงขึ้นไป พรรคเพื่อไทยก็มีสิทธิจัดตั้งรัฐบาล แต่ถ้าได้ 250 เสียงก็ยังไม่สามารถทำงานได้ ก็ต้องหาพรรคการเมืองมาร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล โดยหลักการที่จะนำพรรคการเมืองที่เข้ามาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยนั้นคือ 1. จะต้องเป็นพรรคการเมืองที่มีอุดมการณ์เดียวกัน เป็นฝ่ายสนับสนุนประชาธิปไตย ไม่สนับสนุนเผด็จการ 2. กรณีพรรคการเมืองที่สนับสนุนกับเผด็จการ ไปชู พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ พรรคเพื่อไทยจะไม่ร่วมจัดตั้งรัฐบาล เงื่อนไขนี้จะพิจารณา ถึงเงื่อนไขในอดีตอนาคตและปัจจุบันด้วยหรือไม่นั้นจะต้องมาดูก่อน เพราะถ้าประชาชนรับไม่ได้ก็ไม่พิจารณา 3.ต้องเป็นพรรคที่ทำเพื่อประชาชนจริงๆ
นพ.ชลน่าน ระบุว่า ยังเร็วเกินไปที่จะตอบว่าจะจับมือกับพรรคพลังประชารัฐถ้าเกิดมีการเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร เป็นนายกฯ ทั้งนี้ไม่ได้ปฏิเสธการตอบรับแต่ยังเร็วเกินไป ซึ่งเราอยากให้ดูข้อเท็จจริงจากการตัดสินของ ประชาชนว่าประชาชนมอบหมายให้พรรคการเมืองใดเป็นรัฐบาล
ถามถึง กรณีพรรคร่วมฝ่ายค้านจะเสนอญัตติเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติก่อนมีการยุบสภาหรือไม่ นพ.ชลน่าน ระบุว่า ในที่ประชุมพรรคร่วมฝ่ายค้าน ต้องการมีการเปิดญัตติขออภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติก่อนที่จะมีการยุบสภาผู้แทนราษฎรอยู่แล้ว ดังนั้นขณะนี้กำลังเฝ้ารอดูว่าจะมีการยุบสภาช่วงใดซึ่งขนาดนี้ก็ยังมีหลายความเห็นโดยมีการคาดการณ์ว่ารัฐบาลอาจจะอยู่ครบวาระหรืออาจจะยุบสภาในช่วงต้นปี 2566 หรือปลายปี 2565 หรือบางคนบอกก่อน 8 ก.พ.2566 ดังนั้น ความเห็นส่วนใหญ่จะยื่นญัตติก่อนมีการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปค 2022 โดยยื่นในช่วง 15-16 พ.ย. 2565 ซึ่งกว่าจะพิจารณาได้ต้องใช้เวลาประมาณหนึ่งเดือน มันจะเป็นหลักประกันที่น่าจะยังไม่มีการยุบสภา
ถามว่า มีการสำรวจคะแนนนิยมในภาคใต้พบว่า แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทยในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และพรรคเพื่อไทยมีคะแนนนิยมมาเป็นอันดับ 2 โดย นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรคดูนิด้าโพลถือว่าพอใจในมุมคะแนนนิยมเดิมไม่ถึงร้อยละ 10 ขณะนี้คะแนนนิยมถือว่ามาที่ร้อยละ 15 เป็นการตอบรับทีดี พื้นที่ภาคใต้นั้นความนิยมของพรรคเพื่อไทยจะดีมากกว่าที่ผ่านมา โดยพรรคจะมีนโยบายภาพกว้างในพื้นที่สำคัญ โดยจะมีเขตธุรกิจใหม่ ทั้งใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จ.เชียงใหม่ กทม. ถ้ามีนโยบายเฉพาะโดยประเด็นเศรษฐกิจ
นพ.ชลน่าน ระบุว่า มั่นใจพรรคเพื่อไทยจะปักธง ส.ส.ภาคใต้ ในการเลือกตั้งใหญ่ได้แน่นอนใน ส.ส.เขต โดยตั้งเป้าว่าถ้าได้ ส.ส. 1 เขตในภาคใต้ก็ถือว่าชนะ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยได้ ส.ส.ภาคใต้เลย และคาดว่าจะได้ ส.ส.ใต้มากกว่า 1 เขต พรรคเพื่อไทยต้องทำให้พี่น้องคนใต้ไว้วางใจกับพรรคเพื่อไทย เพื่อให้มีการพัฒนาประเทศร่วมกัน ตนเชื่อว่าพี่น้องคนใต้จะเชื่อมั่นพรรคเพื่อไทยในประเด็นความทุกข์ยาก ที่เจอวิกฤตเศรษฐกิจ โดยจะดูนโยบายของพรรคเพื่อไทยที่น่าจะตอบโจทย์ได้
ถามว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยได้ ส.ส.ภาคใต้ในการเลือกตั้ง จะถือว่าเป็นสัญญาณให้เกิดแลนด์สไลด์ให้กับพรรคเพื่อไทยในหลายภูมิภาค นพ.ชลน่าน ระบุว่า บ่งบอกว่าความนิยมของพรรคเพื่อไทยที่ประชาชนไว้วางใจให้เข้ามาทำหน้าที่ ก็จะมีตัวแทน ส.ส.อยู่ทุกภูมิภาค แม้ภาคใต้จะไม่แลนด์สไลด์ แต่ถ้าพรรคเพื่อไทย ส.ส.ได้เกิน 250 เสียงก็จะทำให้มี ส.ส.เข้ามาทำหน้าที่ให้กับพรรคเพื่อไทยได้และหากได้เป็นรัฐบาลจะได้ทำงานร่วมกันได้
ด้าน ประเสริฐ ระบุว่า ในเร็วๆนี้พรรคเพื่อไทยจะมีการเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ภาคใต้ ซึ่งกระแสความนิยมสูงขึ้น คาดว่าจะได้ ส.ส.จำนวนหนึ่ง และในเดือน พ.ย.นี้ จะลงพื้นที่ อาจจะเป็น จ.นครศรีธรรมราช หรือ จ.ภูเก็ต โดยสองจังหวัดนี้เป็นพื้นที่เขตเศรษฐกิจ เพื่อเรียกความเชื่อมั่น สร้างกระแสนิยมให้กับพรรคเพื่อไทย ถ้าพรรคเพื่อไทย เป็นรัฐบาลแล้วจะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้ พร้อมยืนยันว่า พรรคได้วางตัวผู้สมัคร ส.ส.อุบลราชธานีไว้ครบทั้ง 11 เขตแล้ว
จากนั้น นพ.ชลน่าน ได้หันไปถาม ส.ส.อุบลราชธานี และว่าที่ผู้สมัครว่าจะได้ ส.ส.ยกจังหวัดหรือไม่ ทำให้ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ยืนยันกับ นพ.ชลน่าน ว่าจะได้ส.ส.ยกจังหวัดอุบลราชธานี จ.อำนาจเจริญ จ.ยโสธร