ไม่พบผลการค้นหา
ศูนย์วิจัย 'ฟิตซ์โซลูชั่นส์' ประเมินว่าอุตสาหกรรมเนื้อวัวทั่วโลกจะเจอความเสี่ยงเพิ่มขึ้น เพราะหลายประเทศเริ่มตั้งคำถามว่าควรใช้มาตรการเก็บภาษีบาปกับเนื้อวัวหรือไม่ หลังมีรายงานบ่งชี้ว่า การทำปศุสัตว์ขนาดใหญ่เป็นตัวการปล่อยก๊าซเรือนกระจก-ภาวะโลกร้อน

บิสซิเนสอินไซเดอร์ สื่อด้านธุรกิจ รายงานอ้างอิงผลวิจัยของฟิตช์โซลูชั่นส์ ซึ่งเตือนว่าอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ในหลายประเทศอาจต้องเผชิญความเสี่ยงด้านการลงทุนเพิ่มขึ้น ทั้งยังอาจทำให้เนื้อวัวหรือเนื้อแปรรูปถูกจัดเป็นสินค้าที่ต้องเก็บ 'ภาษีบาป' หรือ Sin Tax แบบเดียวกับยาสูบ เครื่องดื่มรสหวาน รวมถึงผลิตภัณฑ์จากอุตสาหกรรมที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ สู่ชั้นบรรยากาศ ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ความเคลื่อนไหวล่าสุดที่สอดคล้องกับรายงานของฟิตช์โซลูชั่นส์ คือ กรณี ส.ส.ของพรรคกรีนและพรรคอื่นๆ อีกสองพรรคของเยอรมนีเสนอให้รัฐบาลตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาความเป็นไปได้ในการเก็บภาษีเนื้อวัวในหมวดภาษีบาป โดยยกตัวอย่างรายงานของสหประชาชาติที่สรุปว่าอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์และการทำฟาร์มปศุสัตว์ขนาดใหญ่ ทำให้เกิดก๊าซมีเทนจำนวนมหาศาลในชั้นบรรยากาศ โดยเกิดจากการเรอ ผายลม และมูลของสัตว์ ต้นตอปรากฏการณ์เรือนกระจกและภาวะโลกร้อน 

ก่อนหน้านี้ในปี 2016 ประเทศเดนมาร์กและสวีเดนได้เสนอมาตรการพิจารณาเก็บภาษีเนื้อวัวและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเนื้อวัวโดยใช้เกณฑ์การเก็บภาษีบาปเช่นกัน ซึ่งกระบวนการพิจารณายังไม่แล้วเสร็จ แต่กระแสรณรงค์ลดการบริโภคเนื้อวัวและการทำปศุสัตว์ขนาดใหญ่ในกลุ่มประเทศยุโรปตะวันตกกำลังมาแรงขึ้นเรื่อยๆ จนมีความเป็นไปได้สูงที่รัฐบาลในประเทศเหล่านี้จะผลักดันให้เกิดมาตรการทางกฎหมายขึ้นมาจริงๆ รวมถึงการส่งเสริมอุตสาหกรรมโปรตีนจากพืชหรือเนื้อที่ทำจากพืชเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม บลูมเบิร์กและเดอะการ์เดียนเตือนว่า การเก็บภาษีบาปจากเนื้อวัวหรืออุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ จะยิ่งทำให้ตัวเลือกด้านอาหารของคนทั่วโลกลดน้อยลงยิ่งกว่าเดิม และคนที่มีฐานะยากจนจะได้รับผลกระทบมากที่สุด เพราะถ้าเนื้อวัวถูกเก็บภาษีเพิ่มขึ้น ราคาขายก็ย่อมจะสูงขึ้นด้วย เช่นเดียวกับอาหารทดแทนเนื้อสัตว์ที่มีราคาสูง จะยิ่งทำให้คนยากจนหมดโอกาสบริโภคอาหารคุณภาพดี และหันไปบริโภคอาหารอย่างอื่นที่ราคาถูกกว่าแทน ซึ่งก็ไม่มีอะไรรับประกันได้เลยว่าอาหารราคาถูกเหล่านี้จะดีต่อสุขภาพ เพราะอาหารสำเร็จรูปประเภทอื่นอาจจะมีกระบวนการผลิตที่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ก็อาจจะมีสารที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพอื่นๆ

ทั้งนี้ การกำหนดสินค้าในกลุ่มภาษีบาปของแต่ละประเทศมีความแตกต่างกันไป แต่สิ่งที่หลายประเทศเห็นตรงกันว่าควรเก็บภาษีบาปก็คือ 'ผลิตภัณฑ์ยาสูบ' เพราะเป็นผลิตภัณฑ์กระทบสุขภาพของทั้งคนที่สูบและคนรอบข้าง ในบางประเทศจึงนำภาษีบาปไปใช้เป็นงบประมาณด้านสาธารณสุข หรือไม่ก็งบประมาณด้านการศึกษา เพื่อรณรงค์ให้คนตระหนักถึงโทษที่เกิดจากการบริโภคสินค้ากลุ่มภาษีบาปเหล่านี้

ช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็มีความพยายามผลักดันการขึ้นภาษีสินค้ารสหวานต่างๆ ในหลายประเทศ แบบเดียวกับการพิจารณาสินค้าที่ต้องเก็บภาษีบาป เพราะการบริโภครสหวานทำให้คนจำนวนมากมีปัญหาสุขภาพ ทั้งเป็นโรคอ้วนและน้ำหนักเกิน กลายเป็นปัญหาใหญ่ในหลายประเทศ ทำให้การเก็บภาษีความหวานในหลายประเทศประสบความสำเร็จ ฟิตช์โซลูชั่นส์จึงประเมินว่าการเก็บภาษีบาปจากเนื้อวัวในบางประเทศจึงอาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต

ส่วนประเทศที่ประชาชนนิยมบริโภคเนื้อวัวเป็นจำนวนมาก เช่น สหรัฐฯ หรือบราซิล จะยังไม่มีการเสนอมาตรการเก็บภาษีบาปกับสินค้ากลุ่มเนื้อวัวหรือผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเนื้อวัวในระยะเวลาอันใกล้นี้อย่างแน่นอน เพราะคงจะเจอกับแรงต่อต้านจากประชาชนอย่างหนัก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: