นายลิม กวนเอ็ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของมาเลเซีย กล่าวว่า ในปี 2018 มาเลเซียได้รับเงินลงทุนจากต่างชาติโดยตรงเพิ่มขึ้นถึง 48 เปอร์เซ็นต์ โดยเพิ่มขึ้นจาก 54,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในปี 2017 เป็น 80,500 ดอลลาร์สหรัฐฯในปี 2018 ซึ่งสะท้อนให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อสภาพเศรษฐกิจของมาเลเซียที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะนักลงทุนจากจีนและญี่ปุ่นที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงปีที่ผ่านมา
นายลิม กวงเอ็ง ยังกล่าวว่า "ภายใน 3 ปี มาเลเซียตั้งเป้าจะต้องกลับมาเป็นผู้นำทางด้านเศรษฐกิจในกลุ่มอาเซียน ในฐานะเสือแห่งอาเซียน"
นอกจากนี้นายลิม กวนเอ็ง ยังกล่าวถึงการเติบโตของภาคการผลิตที่ผ่านมาว่า "นับตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมาดัชนีในภาคอุตสาหกรรมของมาเลเซียนั้นเพิ่มขึ้น 3.2 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสูงกว่าการคาดการของบลูมเบิร์กที่ประเมินว่าภาคอุตสาหกรรมการผลิตของมาเลเซียในเดือนมกราคมจะเติบโตเพียง 2.3 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น"
ทั้งนี้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นายลิม กวนเอ็ง กล่าวว่า ในปี 2019 ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศหรือ GDPของมาเลเซียคาดว่าจะเติบโตกว่า 4.9 เปอร์เซ็นต์ แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากการขยายตัวของอัตราเงินเฟ้อที่ลดลง เนื่องจากนโยบายการยกเลิกภาษีสินค้าและบริการ (GST) และเปลี่ยนไปใช้นโยบายภาษีการขายและบริการ (SST) รวมไปถึงการรักษาเสถียรภาพราคาเชื้อเพลิงภายในประเทศ เพื่อกระตุ้นการขยายตัวธุรกิจและให้ประชาชนได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลมาเลเซีย
ทางด้านกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ กล่าวว่า เศรษฐกิจของมาเลเซียนั้นเติบโตอยู่ในระดับที่ดี แม้จะมีการเผชิญหน้าจากปัจจัยเศรษฐกิจจากภายนอกประเทศ
นอกจากนี้ ไอเอ็มเอฟ ยังชี้ว่า ในปี 2018 การเติบโตทางเศรษฐกิจของมาเลเซียนั้นมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา จนทำให้มาเลเซียมีรายได้ต่อหัวที่สูงขึ้นและสามารภลดปัญหาความยากจนของประชากรได้มากขึ้น แม้ว่าปัจจุบันหนี้สาธารณะของมาเลเซียยังคงมีอัตราที่สูงเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาค แต่อัตราหนี้ครัวเรือนในกลุ่มชนชั้นกลางของมาเลเซียนั้นกลับลดลง
ที่มา CNA / New straits times